หากใครเป็นแฟน เมมฟิส กริซลีย์ส ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ให้วงกลมลงบนปฎิทินไว้เลยว่านี่คือวันที่ จา มอแรนท์ สามารถกลับมาลงสนามให้กับทีมได้อีกครั้งหลังจากโดนแบนไปทั้งหมด 25 เกมเต็มๆจากเหตุฉาวโฉ่เรื่องการโชว์ปืนผ่านไลฟ์สดครั้งแล้วครั้งเล่า และประเด็นที่ตามมามันอยู่ที่ว่าพอ จา มอแรนท์ กลับมา เขาจะช่วย กริซลีย์ส ได้มากแค่ไหน? เพราะว่าตอนนี้สถานการณ์ทีมก็หนักไม่ใช่น้อย แค่คลำหาชัยนัดหนึ่งเกมยังยากเย็น ไม่ต้องพูดเลยว่าการชนะติดๆกันนั้นก็แทบจะไม่มีให้เห็น แล้วตัวของ จา มอแรนท์ จะสามารถกลับมากู้วิกฤติของทีมตราหมีในตอนนี้ได้หรือไม่? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
การกลับมาของ จา มอแรนท์ จะทำให้ กริซลีย์ส ทำผลงานได้ดีขึ้นหรือไม่
ในตอนนี้ เมมฟิส กริซลีย์ส อยู่ในอันดับที่ 13 ของสายตะวันตกด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 15 เท่ากับ พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส ที่อยู่ในอันดับ 14 และห่างจาก ยูทาห์ แจ๊ซ อันดับ 12 ของตารางเพียงแค่ครึ่งเกมเท่านั้น แต่เมื่อพูดถึงทีมที่อันดับต่ำกว่า 10 ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้เข้าเพลย์-อินอยู่ดี สิ่งที่ต้องมองจริงๆคงต้องเป็นทีมอย่าง ซันส์, คลิปเปอร์ส และ เพลิแคนส์ มากกว่าที่ตอนนี้อยู่อันดับ 8, 9 และ 10 โดยที่พวกเขามีเกมห่างกับ กริซลีย์ส ถึง 5 เกม และต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย
ซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาของ จา มอแรนท์ คงช่วยทีมในเกมรุกได้ไม่น้อยเพราะว่าหลังจากที่เสีย ไทอัส โจนส์ ไปจากการเทรด มาร์คัส สมาร์ท ก็ต้องพบอาการบาดเจ็บ และ เดอร์ริค โรส ที่ลงเล่นได้ 3 วันเจ็บอีก 4 วัน ทีมก็ไม่มีตัวถือบอลคุณภาพที่จะยืนระยะในสนามเลยจนต้องให้ เดสมอนด์ เบน เป็นคนถือบอลหลักไปเรื่อยๆ นี่จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีเกมรุกอยู่ในอันดับที่ 28 (108.1 แต้มต่อ 100 การครองบอล) เท่านั้น อย่างในเรื่องเกมรุกครึ่งสนามพวกเขาก็ร่วงไปอยู่อันดับที่ 26 จากที่ไม่ได้ดีอยู่แล้วในปีก่อนๆ (ฤดูกาลที่ผ่านมาอยู่ในอันดับที่ 22)
แต่เรื่องที่หนักมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องเกมสวนกลับที่จากสามฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยหลุดจาก 3 อันดับแรกของลีกเลยในการได้แต้มจากการเล่นประเภทนี้ แต่ปีนี้พวกเขาอันดับร่วงมาถึงอันดับที่ 27 เลยทีเดียว นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ มอแรนท์ จะมีส่วนเข้ามาช่วยตรงนี้อย่างแน่นอน และน่าจะทำให้เกมรุกโดยรวมของ กริซลีย์ส มีประสิทธิภาพขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าการกลับมาของ มอแรนท์ จะช่วยได้ทั้งหมด เพราะการที่บิ๊กแมนตัวหลักเจ็บไปทั้ง สตีเวน อดัมส์ และ แบรนดอน คลาร์ก มันทำให้การเก็บรีบาวด์เกมรุกที่เป็นจุดเด่นของทีมหายไปทันที ซึ่งมันก็ส่งผลโดยตรงไปยังลูกซ้ำดาบสองของทีมที่ก็หายไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในสามฤดูกาลที่ผ่านมา กริซลีย์ส ไม่เคยอยู่ต่ำกว่าอันดับ 10 เลยในเรื่องทำคะแนนจากการซ้ำดาบสอง หลังจากที่ได้รีบาวด์เกมรุก แต่พอสองคนนี้เจ็บไป รวมถึง จา มอแรนท์ ที่เป็นการ์ดร่างกายดีต้องโดนแบนอีก จุดเด่นตรงนี้ก็เลยหายไปแบบเอากลับมาไม่ได้ เพราะ จาเรน แจ็คสัน จูเนียร์ ก็ไม่ใช่คนที่มีรีบาวด์เกมรุกโหดมากขนาดนั้นอยู่แล้ว (ตลอดทั้งอาชีพ แจ๊คสัน จูเนียร์ มีการรีบาวด์อยู่ที่ 5.6 ครั้งต่อเกม และมีการเก็บรีบาวด์เกมรุกที่ 1.4 ครั้งต่อเกมเท่านั้น) ส่วนเรื่องเกมรับนั้นก็คงหวังจาก มอแรนท์ ไม่ได้มากนักเนื่องจากเจ้าตัวเองก็ไม่ใช่คนที่ป้องกันเก่งอะไรถึงจะสตีลเก่งและกระโดดสูงก็ตาม แถมตอนนี้เกมรับของทีมก็ดีอยู่แล้ว โดยอยู่อันดับที่ 10 ของลีก (113.5 แต้มต่อ 100 การครองบอล)
ทีนี้ก็ต้องคอยดูกันแล้วว่าถ้าเกมรุกของทีมขยับขึ้นไปได้มากกว่าตอนนี้ประมาณ 7 ถึง 8 อันดับ ภาพรวมก็ถือว่าน่าพอใจไม่น้อยจากการกลับมาของ มอแรนท์ แต่ก็อย่าลืมว่าฝั่งตะวันตกแทบจะไม่มีทีมไหนเคี้ยวง่ายๆเลย แถมความห่างถึง 5 เกมก็ไม่ใช่อะไรที่จะก้าวข้ามง่ายๆเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่ กริซลีย์ส ต้องทำก็คือการนำเกมรุกของตัวเองกลับมาให้ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด เอาชนะทีมท้ายตารางทั้งสองฝั่งให้ได้อย่างสม่ำเสมอและค่อยๆรักษามาตรฐาน สู้กับทีมที่ลุ้นเข้าเพลย์ออฟให้ได้จากเกมรุกที่ดีขึ้น ตรงนี้ก็คงทำให้โอกาสที่พวกเขาจะไต่ไปอยู่ในพื้นที่เพลย์-อินยังเป็นอะไรที่หวังได้แบบเต็มรูปแบบแน่นอน
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023
🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends
