Analysis :
ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาของ บีจีปทุมยูไนเต็ด ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายกับสโมสรแห่งนี้ ทั้งเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตาจากการตกชั้นไปในฤดูกาล 2018 และเรื่องที่น่ายินดีในฤดูกาล 2019 จากการเลื่อนชั้นกลับมาด้วยการเป็นแชมป์ในไทยลีก 2 ได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 349 วัน หรือประมาณ 1 ฤดูกาลเท่านั้น และในฤดูกาล 2020 นี้ ก็มีเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ เกิดขึ้นกับสโมสรแห่งนี้ ด้วยการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีของประวัติศาสตร์สโมสร และยังเป็นทีมที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้เร็วที่สุดอีกด้วย
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาของบีจีปทุมยูไนเต็ด จากวันที่ตกชั้น จนถึงวันที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นประวัติศาสตร์ แอดมินจะพาแฟนบอลทุกท่านมาวิเคราะห์กันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้บีจีปทุมยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
1.ทุ่มงบเต็มที่
จากการได้กลับมาโลดแล่นบนศึกไทยลีก 1 อีกครั้งในฤดูกาล 2020 นี้ บีจีปทุมยูไนเต็ดก็ได้ทุ่มงบประมาณในการทำทีมมากถึง 200 ล้านบาท ในการตัดแต่งและเสริมทัพนักเตะใหม่ให้มีความสมบูรณ์และแข็งแรงมากขึ้น
2.เข้าถึงหัวใจของการทำทีมฟุตบอล
การที่ บีจีปทุมยูไนเต็ด ได้ตกชั้นไปในฤดูกาล 2018 นั้น ทำให้ท่านประธานสโมสรได้มีการเปลี่ยนแปลงการทำทีมชุดใหญ่ด้วยการกล้าที่จะจัดการกับองค์ประกอบต่างๆในทีมอย่างเด็ดขาดและรัดกุมมากขึ้น โดยเน้นการให้ความสำคัญกับโครงสร้างหลักของทีมอย่างเต็มที่และเข้าใจถึงการบริหารจัดการนักเตะมากขึ้น ว่าควรที่จะจัดหานักเตะอย่างไร บริหารจัดการทีมงานอย่างไร เพื่อให้มีส่วนผสมที่ลงตัวเกิดขึ้นภายในสโมสรแห่งนี้
3.ได้นักเตะคุณภาพดีมาเสริมทัพ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บีจีปทุมยูไนเต็ดประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ก็คือการที่ได้ผู้เล่นที่มีคุณภาพสูงมาเสริมทัพในหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ตำแหน่งผู้รักษาประตูจนไปถึงตำแหน่งกองหน้าทั้ง ฉัตรชัย บุตรพรหม, วิคเตอร์ คาร์โดโซ, อันเดรส ตุญเญซ, สารัชอยู่เย็น, สุมัญญา ปุริสาย, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต รวมไปถึง ธีรศิลป์ แดงดา และยังมีผู้เล่นคนอื่นอีกมากมายที่มีคุณภาพดีจากการการันตีความสำเร็จกับสโมสรเดิมที่เจ้าตัวเคยอยู่ และนักเตะที่ฝีเท้าเด่นๆ เข้ามาเสริมทัพในฤดูกาลนี้ด้วย
4.มีขุมกำลังให้เลือกใช้หลากหลาย
การที่ได้นักเตะคุณภาพดีมามากมายในปีนี้ ย่อมส่งผลดีและสร้างความได้เปรียบให้กับทีมที่มีตัวผู้เล่นหลากหลายอย่างบีจีปทุมฯ เนื่องจากผู้เล่นทุกคนในทีมสามารถที่จะทดแทนตำแหน่งของกันและกันได้ และยังส่งผลดีในเรื่องของสภาพร่างกายของนักเตะอีกด้วยเพราะการที่นักเตะชุดเดิมลงเล่นตลอดฤดูกาลคงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรกับการรักษาสภาพความฟิตของร่างกาย ดังนั้นการได้มีนักเตะที่สามารถทดแทนตำแหน่งกันได้จะทำให้สภาพร่างกายของนักเตะได้มีความสมบูรณ์ในระยะยาวด้วย
5.ทีมสตาฟก็สำคัญ
อย่างที่ทราบการแล้วว่าบีจีปทุมได้ปรับโครงสร้างการบริหารทีมใหม่ในช่วงที่ตกชั้นไปในฤดูกาล 2018 ซึ่งการผ่าตัดทีมในครั้งนั้นทำให้บีจีปทุมได้ให้ความสำคัญถึงโครงสร้างที่เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างแท้จริง ซึ่งได้มีการจัดโครงสร้างการบริหารทีมอย่างครบครัน ทั้งการได้ทีมงานผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพ การมีผู้อำนวยการเทคนิค ทีมฟิตเนส ทีมมีเดีย ทีมกายภาพบำบัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำทีมที่จะคอยจัดการให้ทีมในส่วนต่างๆได้ ซึ่งการให้ความสำคัญในรายละเอียดเล็กๆถือเป็นหนึ่งประเด็นสำคัญเมื่อรวมกันแล้วก็จะทำให้ทีมสมบูรณ์ตั้งแต่หลังบ้าน ก็จะส่งผลดีกับหน้าบ้านนั้นก็คือ จะส่งผลให้นักเตะสามารถที่จะทำหน้าที่ในสนามได้อย่างเต็มที่ด้วย
6.แฟนบอลที่เหนียวแน่น
จากการตกชั้นไปในฤดูกาล 2018 แต่แฟนบอลของบีจีปทุมก็ยังคงยืนหยัดอย่างเหนียวแน่นอยู่ข้างนักเตะเสมอถึงแม้ว่าทีมรักของเขาจะต้องพลาดท่าตกชั้นไป ซึ่งส่งผลให้ในฤดูกาล 2020 นี้นักเตะและทีมงานของสโมสรมีมุ่งมั่นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวที่จะทำงานหนักเพื่อทีจะตอบแทนแฟนบอลที่คอยสนับสนุนทีมทั้งในวันที่ทีมเกิดวิกฤติแฟนบอลก็ยังคงอยู่ และในปีนี้บีจีปทุมยูไนเต็ดก็ได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับแฟนบอลที่รักของเขาด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 2020 นี้
? อัพเดททุกการเคลื่อนไหว ฟุตบอล ทั้งหมดที่ SYT Thailand
? ติดตามแฟนเพจ Facebook ของเรา Support Your Team – Thailand
Comments are closed for this post.