photo skysports.com

ในวงการฟุตบอล มีผู้เล่นฝีเท้าดีมากมายที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจให้กับต้นสังกัดเดิมของตัวเอง และจากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม นั้น มันก็ทำให้บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่พยายามอย่างยิ่งในการคว้าตัวพวกเขาไปเสริมทัพ

 ขณะเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จกับปลายทางใหม่ แม้พวกเขาจะเคยทำผลงานได้ดีมาก่อนก็ตาม ซึ่งมันมีหลายสาเหตุที่ทำให้พวกเขา ต้องเผชิญกับความล้มเหลวอย่างไม่น่าเชื่อ

ในวงการฟุตบอล 4 ผู้เล่นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อตัดสินใจย้ายทีมผิดเวลา มันก็ทำให้พวกเขาถูกลืมไปได้ง่ายๆ

ในวงการฟุตบอล
photo skysports.com

1. เบนจานี่ เอ็มวารูวารี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

หลายคนลืมไปแล้วว่า เอ็มวารูวารี เคยเป็นหนึ่งในนักเตะของ แมนฯ ซิตี้ ในยุคเริ่มต้นที่ “เรือใบสีฟ้า” กลายเป็นทีมมหาเศรษฐี โดย หัวหอกชาวซิมบับเว ย้ายจาก ปอร์ตสมัธ มาเล่นในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อปี 2008 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 3.87 ล้านปอนด์ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการย้ายทีมของ เอ็มวารูวารี วุ่นวายสุดๆ หลังโดนตรวจพบอาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่า นอกจากนี้ เอกสารการย้ายทีมก็เลยวันสุดท้ายของตลาดนักเตะไปแล้ว แต่ทาง พรีเมียร์ลีก ก็อนุญาตให้การย้ายสังกัดเกิดขึ้นภายหลังตรวจสอบรายละเอียดต่างๆครบถ้วน

เอ็มวารูวารี ฟอร์มฝืดสุดๆไม่เหมือนสมัยที่เล่นกับ ปอร์ตสมัธ ซึ่งตลอดเวลา 3 ฤดูกาลกับ แมนฯซิตี้ นั้น เขายิงได้เพียง 7 ประตู ก่อนจะตระเวนไปเล่นกับ ซันเดอร์แลนด์, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ และกลับไปยัง ปอร์ตสมัธ อีกครั้ง จากนั้น แขวนสตั๊ดในปี 2014 กับ บิดเวสท์ วิทซ์ ในแอฟริกาใต้

photo skysports.com

2. ดาเนี่ยล กีซ่า (เฟเนร์บาห์เช่)

ฤดูกาล 2007-08 กีซ่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่รอนแรงที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรป หลังระเบิดฟอร์มกระหน่ำประตูให้กับ เรอัล มายอร์ก้า ในศึกลา ลีกา สเปน ไปถึง 27 ลูก พร้อมกับความตำแหน่งดาวซัลโวสำเร็จ และมีชื่อติดทีมชาติสเปนชุดลุยศึก ยูโร ปี 2008 อีกด้วย

ในช่วงเวลานั้น สโมสรดังอย่าง อาร์เซนอล และ บาร์เซโลน่า ต่างแสดงความสนใจในตัว กีซ่า อย่างมาก แต่กลายเป็น เฟเนร์บาห์เช่ ที่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา จำนวน 13.7 ล้านปอนด์ ให้กับ มายอร์ก้า เพื่อคว้าตัวดาวยิงชาวสเปนไปล่าตาข่าย

อย่างไรก็ตาม กีซ่า ไม่ประสบความสำเร็จเลยตลอดเวลา 3 ปี กับ เฟเนร์บาห์เช่ และชื่อของเขาก็ค่อยๆถูกลืมไป รวมทั้งต้องพเนจรไปเล่นกับทีมเล็กๆอย่าง เกตาเฟ่, ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ในมาเลเซีย, เซอร์โร่ ปอร์เตโน่ ในปารากวัย ก่อนจะกลับมาเล่นที่บ้านเกิดกับ กาดิซ และ แอตเลติโก ซานลูเกโน่ ในเซกุนด้า บี

photo skyspotrs.com

3. ชาร์ลี อดัม (ลิเวอร์พูล)

กองกลางชาวสก็อตแลนด์ ถือเป็นนักเตะคนสำคัญในการช่วยให้ แบล็คพูล คว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2009-2010 หลังระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการซัดไปถึง 20 ประตู รวมถึงการยิงใส่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในรอบเพลย์ออฟ อีกด้วย

แต่มันเป็นเพยีงฤดูกาลเดียวที่ แบล็คพูล ได้สัมผัสบรรยากาศในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ และถึงแม้ พลพรรค “เดอะ ซีไซเดอร์ส” จะตกชั้น แต่ อดัม ก็ยังทำผลงานที่ยอดเยี่ยมด้วยการซัดไป 12 ประตู ซึ่งทำให้สโมสรดังอย่าง ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาไปเสริมทัพในราคา 8 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม อดัมส์ ได้ค้าแข้งอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ ได้เพียง 12 เดือนเท่านั้น และถูก “หงส์แดง” ขายให้กับ สโต๊ค ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปีต่อมา

photo planetfootball.com

4. ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส (อาร์เซนอล)

 มันเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดสำหรับ เจฟเฟอร์ส ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึก พรีเมียร์ลีก หลังจากที่เปิดตัวนัดแรกให้กับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น

ในฤดูกาล 2000-2001 กับ เอฟเวอร์ตัน นั้น เจฟเฟอร์ พัฒนาฟอร์มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด และกลายเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมให้กับ เควิน แคมป์เบล ในแดนหน้า ซึ่งหลังจบฤดูกาล อาร์เซนอล ยอมจ่ายเงิน 8 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขาไปล่าตาข่ายทันที

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจาก เจฟเฟอร์ส โชคร้ายได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนทางสมอง และต้องอยู่บนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ โดยหลังจากนั้น เจ้าตัวต้องกลายเป็นนักเตะในลีกระดับล่างเล่นให้กับทีมอย่าง อิปสวิช ทาวน์, เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ และ แอคคริงตัน เป็นต้น

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends