Photo via Eurosport

การมอบรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ (Ballon d’Or) ประจำปี 2023 จะมีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ในการตัดสินหาผู้ชนะที่น่าสนใจใน 4 หัวข้อ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสินนี้เริ่มใช้เมื่อปี 2022 และยังใช้ต่อเนื่องในปีนี้

โดยทางนิตยสาร France Football ผู้จัดงานมอบรางวัลบัลลงดอร์ได้มีการประกาศรายชื่อนักเตะที่มีลุ้นรางวัลจำนวน 30 คน เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสื่อและแฟนบอลต่างมีมุมมองเรื่องของผู้ชนะไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีชื่อของ ลีโอเนล เมสซี่ ที่คว้ารางวัลนี้มาแล้วถึง 7 ครั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มีลุ้นเป็นผู้ชนะหนที่ 8 จากผลงานการพาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อีกคนที่ก็เป็นตัวเต็งเช่นกันก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าทีมชาตินอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สร้างสถิติมากมายในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา รวมถึงการพาทีมเรือใบสีฟ้าคว้าทริปเปิลแชมป์

Photo via France24

สำหรับการเปลี่ยนแปลงเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาเกิดขึ้นเมื่อปี 2022 ซึ่งผู้ชนะรางบัลลงดอร์คือ คาริม เบนเซม่า หลังจากที่ในการมอบรางวัลในปี 2021 ที่ผู้ชนะคือ เมสซี่ ถูกมองว่าไม่เหมาะสม จนกลายเป็นประเด็นโต้แย้งทั้งจากสื่อและแฟนบอล เพราะส่วนใหญ่มองว่าผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์ในปีดังกล่าวคนเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บาเยิร์น มิวนิค ต้นสังกัด จนทำให้นิตยสาร France Football ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการมอบรางวัลบัลลงดอร์มายาวนานมากกว่า 65 ปี ต้องปรับปรุงเกณฑ์ตัดสินหาผู้ชนะ

สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณานักเตะที่เหมาะสมเป็นผู้ชนะรางวัลบลลงดอร์ 4 ข้อ ที่ถูกเปลี่ยนแปลงเมื่อปี 2022 และจะยังเป็นหัวข้อสำคัญในปี 2023 ประกอบด้วย

1.พิจารณาจากผลงานในรอบ 1 ฤดูกาลแข่งขัน ไม่ใช่รอบ 1 ปีปฏิทิน

ก่อนปี 2022 การลงคะแนนเสียงจะพิจารณาจากผลงานในปีปฏิทินเสมอ คือตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม แต่ด้วยกฎใหม่ การลงคะแนนเสียงจะเป็นไปตามฤดูกาลแข่งขันที่นิยมใช้กับลีกใหญ่ของยุโรป ซึ่งปกติจะเริ่มในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป

หากยังคงใช้กฏเดิม ฟุตบอลโลกปี 2022 จะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อตัดสินผู้ชนะในปี 2023 เพราะถือเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่จัดขึ้นตามปีปฏิทินปีที่แล้ว แต่เมื่อใช้กฏใหม่นี้ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ เมสซี่ พาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่น่าจะส่งผลต่อการพิจารณาผู้ชนะรางวัลในปี 2023 นี้อย่างแน่นอนที่สุด

Photo via Eurosport

2.ปรับเปลี่ยนจำนวนประเทศสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงให้ลดลงจากเดิม

ก่อนหน้านี้ ประเทศสมาชิกของ FIFA เกือบทั้งหมดได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียงได้ แต่หลักเกณฑ์ในปีนี้จะลดจำนวนประเทศสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนให้เหลือเพียง 100 ชาติแรกในการจัดอันดับของ FIFA และ 50 อันดับแรกสำหรับการลงคะแนนในการมอบรางวัลประเภทนักฟุตบอลหญิง

3.การพิจารณานักเตะที่มีโอกาสคว้าบัลลงดอร์ จะพิจารณาจากผลงานส่วนตัวมากกว่าผลงานที่ต้นสังกัดของนักเตะทำได้

ผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนจะได้รับการเน้นย้ำหลักเกณฑ์ว่าต้องพิจารณาจากผลงานส่วน

ตัวของนักเตะเป็นอันดับแรก ซึ่งหมายถึงผลงานที่เกิดขึ้นในสนาม การเล่นที่ส่งอิทธิต่อเกม รวมถึงการเล่นที่แสดงถึงความมีน้ำใจนักกีฬา ก่อนที่จะพิจารณาถึงความสำเร็จที่ได้รับร่วมกับทีมต้นสังกัดของนักเตะ

Photo via LALIGA

4.การมีส่วนร่วมของผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้ได้รับการเสนอชื่อ

จากเดิมคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ในการคัดเลือกรายชื่อนักเตะ 30 คนสุดท้ายที่มีสิทธิ์รางวัลบัลลงดอร์ในแต่ละปี จะเป็นเหล่ากองบรรณาธิการของนิตยสาร France Football แต่นับตั้งแต่ปี 2022 ได้มีการให้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เช่น ดิดิเยร์ ดร็อกบา ผู้ชนะแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2012 และเป็นฑูตของ FIFA มาร่วมในการคัดเลือกนักเตะที่มีโอกาสลุ้นรางวัล รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายส่วน รวมถึงนักข่าวต่างประเทศนอกเหนือจากของ France Football

สำหรับพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะบัลลงดอร์ ครั้งที่ 67 ประจำปี 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2023 ที่โรงละครชาเตอเลย์ (Théâtre du Châtelet) ในกรุงปารีส โดยในงานนอกจากจะมีการมอบรางวัลบัลลงดอร์ให้กับทั้งนักฟุตบอลชายและนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี Ballon d’Or Féminin ยังมีการมอบรางวัลให้กับนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม the Kopa Trophy, รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม the Yashin Trophy, รางวัลศูนย์หน้าแห่งปี the Gerd Müller Trophy และรางวัล Club of the Year

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends