โคล พาลเมอร์
photo teamtalk.com

โคล พาลเมอร์ ตัดสินใจคครั้งสำคัญด้วยการย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเล่นกับ เชลซี

โคล พาลเมอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งมากพรสวรรค์ชาวอังกฤษ ตัดสินใจย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ไปเล่นกับ เชลซี ทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่าง เชลซี เป็นเวลาเข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว โดยเจ้าตัวให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการลงเล่นฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา เพลย์เมคเกอร์วันเดอร์คิด วัย 21 ปี กล่าวอย่างชัดเจนว่า ต้องการย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี ซึ่งเป็นสโมสรที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่เด็กแบบยืมตัวเพื่อหาโอกาสลงสนาม แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวสเปนของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ตอบกลับว่า มีทางเลือกอยู่ 2 อย่าง คือ ย้ายออกแบบถาวร หรืออยู่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ต่อไปเพื่อรอคอยโอกาสในอนาคต

อย่างไรก็ตาม พาลเมอร์ ตัดสินใจแบบเด็ดเดี่ยว และไม่มีความกังวล หรือลังเลที่จะเดินออกจาก แมนฯ ซิตี โดยเลือกย้ายไปยัง เชลซี ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญายาวกับทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ถึง 7 ปี และมีออฟชั่นขยายสัญญาเพิ่มเติมอี 1 ปี ซึ่งเถือป็นการย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลเมืองผู้ดีหลายคนพอสมควร

กวาร์ดิโอลา เคยให้สัมภาษณ์ก่อนที่ พาลเมอร์ จะย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ ไปยัง เชลซี ว่า “สิ่งที่ผมรู้ตอนนี้คือ เขาต้องการย้ายทีม แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ผมไม่คิดว่า การยืมตัวจะเกิดขึ้น เขาจะอยู่หรือย้ายออกไป ผมยังไม่แน่ใจ แต่ผมคิดว่า การยืมตัวจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

  ขณะที่ พาลเมอร์ อธิบายถึงเหตุผลของตัวเองหลังย้ายมาค้าแข้งกับ เชลซี ว่า “ผมไม่เคยคิดจะย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ เลยแม้แต่น้อย นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของผมเลยที่จะเดินออกมาจากสโมสร ผมต้องการย้ายออกไปแบบยืมตัวเป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้น กลับมาเล่นให้กับทีมชุดแรก แต่ กวาร์ดิโอลา บอกว่า ผมย้ายออกไปแบบยืมตัวไม่ได้ และบอกว่า คุณจะอยู่ต่อไปหรือถูกขาย

โคล พาลเมอร์
photo football365.com

โคล พาลเมอร์ ไม่ได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 ในตอนแรกดูเหมือนว่า หลายคนมองว่า อนาคตของ พาลเมอร์ กับ แมนฯ ซิตี จะสดใสหลังจากเจ้าตัวพาทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี คว้าฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร U21 เมื่อซัมเมอร์ แถมยังออกสตาร์ทฤดูกาล 2023-2024 ด้วยผลงานที่สุดยอดจากการลงเล่นให้กับพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ไป 3 เกม และซัดไป 2 ประตูด้วยกัน

 นอกจากนี้ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี ก็ปล่อยตัว ริยาด มาห์เรซ ปีกชาวแอลจีเรียออกไป รวมถึง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพกัปตันทีมชาวเบลเยียมก็มีปัญหาบาดเจ็บตั้งแต่ต้นซีซัน แต่ พาลเมอร์ ก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสจาก กวาร์ดิโอลา เช่นเคย

   อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอลา ยังไม่มั่นใจที่จะให้ พาลเมอร์ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงในทีม แมนฯ ซิตี แบบต่อเนื่อง และตัวมิดฟิลด์ดาวรุ่งเลือดผู้ดีเองก็ไม่สามารถรอคอยโอกาสได้อีกต่อไปแล้ว บวกกับคำพูดที่เด็ดขาดของ กวาร์ดิโอล่า จึงทำให้เขาเลือกย้ายไปโชว์ฝีเท้าในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในท้ายที่สุด

    สิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือ พาลเมอร์ กลายมาเป็นหัวใจสำคัญในสแผงมิดฟิลด์ของ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนตินา ได้ทันที โดยลงสนามไปรวมทุกรายการ 30 เกม ซัดไป 12 ประตู และทำไปอีก 9 แอสซิสต์ พร้อมกับถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ของกุนซือ แกเรธ เซาธ์เกตต์ ไปแล้ว 2 เกมด้วยกัน  

สำหรับ พาลเมอร์ อาจถูกมองว่า เป็นอีกหนึ่งในนักเตะที่ล้มเหลวเมื่อเลือกที่จะเดินออกจาก แมนฯ ซิตี ตามหลังอดีตผู้เล่นอย่าง ชูเอา คันเซโล แบ็คชาวโปรตุเกส, ลีรอย ซาเน ปีกชาวเยอรัน และ กาเบรียล เฆซุส หัวหอกชาวบรสซิล แต่สิ่งที่เจ้าตัวทำได้ดีที่สุดคือ การทำผลงานที่ดีกับ เชลซี เพื่อแสดงให้ กวาร์ดิโอลา ได้เห็นว่า คิดผิดที่ไม่ให้โอกาสได้เป็นนักเตะตัวจริงของทัพ “เรือใบสีฟ้า”

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends