Photo via BBC

ถ้าพูดถึงนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ คงไม่มีใครเกิน เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งเด็กปั้นของสโมสร ที่ทำ 3 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด แถมยึดตัวจริงในแผงมิดฟิลด์มา 9 นัดติด

โจนส์ เพิ่งทำคนเดียว 2 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปถล่มชนะ เลสเตอร์ ทีมในโซนหนีตาย 0-3 ก่อนหน้านี้ดาวเตะวัย 22 ปีก็มีชื่อทำประตูได้ในเกมที่ต้นสังกัดเปิดบ้านเฉือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในเกมที่ตื่นเต้นสุดๆ 4-3

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ โจนส์ ก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาเช่นกัน โดยในช่วงออกสตาร์ท 9 นัดแรกของฤดูกาล โจนส์ ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมเลยแม้แต่นัดเดียว หลังจากนั้นก็ยังต้องกระเสือกกระสนคว้านหาโอกาสของตัวเอง เข้าๆ ออกๆ ในทีมอยู่พักใหญ่ บางเกมพอจะมีโชคอยู่บ้างก็ได้ลงเล่นช่วง 10 นาทีสุดท้าย บางเกมก็หลุดหายไปจากทีม ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง

Photo via The Transfer Room

ไม่รู้ว่าจะมองเป็นโชคดีของ โจนส์ ได้หรือเปล่า ที่ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีปัญหาเรื่องผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์ตัวหลักๆ พร้อมใจกันฟอร์มตก ทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ หรือแม้แต่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่ก็โดนอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปวดหัวหาทางปรับเปลี่ยนแก้ไขแทบจะทุกเกม ซึ่งจะเห็นได้ว่าฤดูกาลนี้มีผู้เล่นที่ถูกสลับสับเปลี่ยนลงมาเล่นนตำแหน่งกองกลางของ ลิเวอร์พูล หลายคน โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งที่ คล็อปป์ เลือกจะให้โอกาสลงมาช่วยกู้สถานการณ์ ทำให้เราได้เห็นการแจ้งเกิดของ สเตฟาน บาจเซติซ กองกลางดาวรุ่ง ที่ยึดตำแหน่งตัวจริงในแผงกองกลางของหงส์แดงได้ช่วงหนึ่ง ก่อนจะโชคร้ายโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาว และก็เป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ที่ได้ลงทำหน้าที่แทน ซึ่งก็มีหลายเกมที่ทำผลงานได้น่าประทับ ก่อนที่ คล็อปป์ จะลองหันไปเลือก โจนส์ ที่ตำแหน่งจริงๆ ของแข้งวัย 22 ปีรายนี้คือตัวรุกด้านบน แต่ คล็อปป์ เลือกจับถอยลงมายืนเป็นกองกลาง เพื่อหวังใช้ประโยชน์จากความขยัน ความคล่องตัว ที่เป็นจุดเด่นของ โจนส์ มาช่วยให้กองกลางของ ลิเวอร์พูล มีชีวิตชีวาในการเล่นมากขึ้น

โจนส์ เผยความรู้สึกต่อสถานการณ์ของตัวเองในทีมลิเวอร์พูล ณ เวลานี้เอาไว้หลังจบเกมที่ หงส์แดง บุกเอาชนะ เลสเตอร์ 0-3

Photo via Football365

ความรู้สึกต่อประตูที่ทำได้ในเกมนี้?

“ประตูแรก มาจากลูกครอสที่ยอดเยี่ยมของ โม ซาล่าห์ เราเคยเห็นมาแล้วก่อนหน้านี้ที่ผมไปถึงเสาไกลและเป็นประตูจากเท้าซ้ายอีกครั้ง ประตูที่สองคือการสัมผัสและการยิง ปกติเมื่ออยู่ในพื้นที่ตรงนั่นผมพยายามโยกหลบหรือครองบอลเอาไก่อน แต่ผมคิดว่ากองหลังของเลสเตอร์ คงอ่านใจผมออกบ้าง ดังนั้นผมเลยแค่จับบอลและยิงประตู และผมโชคดีพอที่มันเข้าไป มันเป็นประตูที่ดี”

ความรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นในฐานะนักเตะ และความมั่นใจจากการได้ลงสนามต่อเนื่อง?

“ในแง่ของความมั่นใจ ผมยังเป็นเด็กคนเดิมเสมอ ผมมีความเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ แต่ก่อนหน้านี้มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมมีอาการบาดเจ็บและยังมีเรื่องต่างๆ ดังนั้นผมจึงไม่ได้ลงเล่นมากนัก แต่ผมได้กลับมาเป็นตัวจริงในเกมกับ เชลซี และผมคว้าโอกาสของผมไว้ ผมสนุกกับมัน ผมยังคงถ่อมตัวและไม่หลงระเริงไปกับมัน ผมรู้ว่าต้องทำอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมทำ”

Photo via Liverpool FC | Rousing The Kop

ความรู้สึกว่านี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ในการเล่นให้กับลิเวอร์พูล?

“แน่นอนว่านี่คือช่วงเวลาที่ผมทำผลงานได้ดีที่สุดกับ ลิเวอร์พูล แต่ผมก็พยายามทำแบบนี้มาตลอดเช่นกัน ตอนเป็นเด็กในอะคาเดมี ผมทำประตูได้เสมอ และผมจะไม่พูดว่าผมเป็นดาวรุ่ง แต่ผมเป็นเด็กที่กระโดดขึ้นมาในทีมที่อายุมากกว่าเสมอ จากนั้นผมก็มาถึงทีมชุดใหญ่ และมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่เกมทั้งหมดเปลี่ยนไปจากที่ผมที่เคยสัมผัสมา ดังนั้นผมจึงต้องเปลี่ยนแปลงเกมทั้งหมดของผม แต่ผมกำลังปรับตัวได้ดี และผมคิดว่ามันตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำได้กับทีม”

ความรู้สึกต่อการปรับตัวเพื่อเล่นในตำแหน่งกองกลาง?

“อย่างที่ผมพูด ผมต้องเปลี่ยนการเล่นของตัวเองเยอะมาก ในสมัยที่ผมอยู่ในอะคาเดมี่ ผมเป็นเด็กที่อยากจะได้บอล วิ่ง วิ่ง วิ่ง และยิงประตู และพยายามช่วยเหลือเสมอ ตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่ต้องเล่นทั้งเกมรุกและรับมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นถ้าผมไม่มีบอล ผมก็ต้องไปกดดันและทำให้แน่ใจว่าช่วยปิดพื้นที่ให้ทีมได้”

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends