แจ็ค กรีลิช

Photo via : GettyImage

บางครั้งแค่เนื้อเพลงแค่ท่อนเดียวก็สามารถทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งขึ้นมาได้ในทันทีเลยทีเดียว สำหรับในเคสที่เกิดขึ้นในศึกฟุตบอลนักชิงแชมป์สโมสรโลกระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีม ฟลูมิเนนเซ่ ที่ซึ่งจนถึงตอนนี้นักเตะของฟลูมิเนนเซ่ที่พ่ายแพ้ ก็ยังไม่วายพยายามตามหาเรื่องนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เช่นเดิม

มาร์เซโล่ ฟูลแบ็กกัปตันทีมฟลูมิเนนเซ่ ได้ประกาศพร้อมร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เฟลิเป้ เมโล่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลร่วมกันโจมตี แจ็ค กรีลิช กองกลางตัวรุกเบอร์ 10 ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยทั้งคู่ได้กล่าวหา กรีลิช ว่าพยายามร้องเพลงยั่วยุใส่ฝั่งของฟลูมิเนนเซ่

ประเด็นเพลงโอเล่ ทำให้เกิดสงครามหลังจบเกม

เมโล่ ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนของฝั่งฟลูมิเนนเซ่ ขึ้นชื่อในเรื่องการเป็นแข้งหัวร้อนง่ายอยู่แล้ว ด้วยสไตล์การเล่นของ เมโล่ ที่เน้นเตะติดดาบอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เจ้าตัวมักจะมีปัญหากับนักเตะทีมฝั่งตรงข้ามในสนามอยู่เสมอ แต่กระนั้นแล้วอดีตมิดฟิลด์ยูเวนตุสรายนี้ ก็ได้กล่าวหาว่า กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ของฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จงใจร้องเพลง ‘โอเล่’ ระหว่างเกมที่ซิตี้เอาชนะฟลูมิเนนเซ่ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกด้วยสกอร์ 4-0 รอบชิงชนะเลิศ และเป็นซิตี้ที่ได้แชมป์โลกไปแทน

“ทุกคนได้ทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ ผมมีสมอง ผมจะไม่บอกว่ามันถูกหรือผิด” มาร์เซโล่ ผู้ซึ่งเคยได้แชมป์สโมสรโลกมาแล้วหลายครั้งในสมัยที่เล่นให้กับ เรอัล มาดริด ได้กล่าวกับ CazéTV

“ในการแข่งขันครั้งนี้ เขา (กรีลิช) ได้ถ้วยแชมป์โลกไปแล้วหนึ่งถ้วย แต่ผมเคยได้มาแล้วสี่ครั้ง ผมรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะคว้าแชมป์สี่รายการแบบนั้นได้ ทุกคนทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำ เราต้องการโทรฟี่ ทำไมผมจะไม่เข้าใจเรื่องนี้”

มาร์เซโล่ ปัจจุบันอยู่ในวัย 35 ปี ผ่านการคว้าแชมป์ CWC กับเรอัล มาดริด มาแล้ว 4 ครั้งในปี 2014, 2016, 2017 และ 2018 แต่น่าเสียดายที่ในปี 2022 เจ้าตัวไม่ได้มีโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 เพราะเนื่องจากย้ายออกจากเรอัล มาดริด ไปในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 นั่นเอง

ประเด็นในสนามผ่านไป มาร์เซโล่ ขออวยพรให้ซิตี้โชคดีต่อไป

มาร์เซโล่เคยต่อสู้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในสนามมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่สมัยที่เขาค้าแข้งในยุโรปกับ เรอัล มาดริด และเขาเองก็ได้ผลักดันการเฉลิมฉลองแชมป์ให้กับทางซิตี้ ว่าจงฉลองให้สุดเหวี่ยง เพราะโอกาสจะได้ก้าวเข้ามาคว้าแชมป์โลกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งแบบที่เจ้าตัวเคยสัมผัส โดยเขากล่าวเสริมว่า “เกมนี้เล่นในสนาม ผมไม่ได้พูดไม่ดีหรือดีเกี่ยวกับคนที่ทำเช่นนี้ นั่นแหละฟุตบอล คุณชนะ คุณต้องทำให้สนุกจริงๆ คุณสามารถทำทุกอย่างได้”

“แต่คุณต้องไม่ลืมมารยาทในสนาม ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน ว่าคุณไม่ควรทำอะไรที่ส่อแววไปในทางยั่วยุ หรือเหยียดนักเตะอีกฝั่ง”

พูดถึงคาแรคเตอร์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

หากจะดูที่เจตนาของฝั่ง แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นนักเตะเกมรุก และต้องมีโอกาสปะทะกับ เมโล่ ที่ซึ่งเป็นตัวทำลายเกมในแดนกลาง อาจจะทำให้ทั้งคู่มีความหมั่นไส้ต่อกันในเวลาสู้กันในสนามอยู่แล้ว

เมโล่ เป็นมิดฟิลด์ที่ชอบเข้าบอลรุนแรง ถึงลูกถึงคน ซึ่งเจ้าตัวเล่นเช่นนี้มานานตั้งแต่สมัยที่ไปเล่นฟุตบอลในลีกยุโรปกับฟิออเรนติน่าและยูเวนตุส ซึ่งการเล่นที่รุนแรงเกินกว่าเหตุของ เมโล่ ทำให้เจ้าตัวไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลเท่าไหร่ และมันก็แลกมาด้วยการเสียใบเหลืองหรือใบแดงอย่างที่ไม่ควรจะเป็นในหลายๆครั้งเลยทีเดียว ภาพลักษณ์ของเมโล่ จึงถูกมองว่าเป็นนักเตะหัวร้อนง่าย ชอบเล่นนอกเกม เป็นที่ชิงชังของแฟนบอลหลายๆคน

ในขณะที่ กรีลิช ที่แม้จะเป็นนักเตะประเภทตัวสร้างสรรค์เกม แต่ก็มีภาพลักษณ์ของความเป็นนักเตะแบดบอยติดตัวอยู่เช่นกัน เจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ศิลปิน ทำให้ในหลายครั้งก็อาจจะพูดไม่เข้าหูอีกฝ่าย จนเกือบจะกลายเป็นชนวนสงครามย่อมๆอยู่ง่ายๆด้วยเช่นกัน