Photo via Goal

อาร์เซนอล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษเสริมเกมรุกของพวกเขาก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ด้วยการคว้าตัว ไค ฮาเวิร์ตซ์ ดาวเตะวัย 24 ปีจากเชลซีมาร่วมทัพในราคา 65 ล้านปอนด์ โดยแนวรุกทีมชาติเยอรมันจะเซ็นสัญญาอยู่เล่นในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเป็นเวลา 5 ปี หรือจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2028 สำหรับดาวรุ่งรายนี้เดิมทีเป็นเด็กปั้นของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในลีกบุนเดสลีกาก่อนจะย้ายไปอยู่กับเชลซีในปี 2020 โดยอยู่ค้าแข้งในสแตมฟอร์ดบริดจ์ 3 ปี ลงเล่นไปทั้งสิ้น 139 นัด ยิงไป 32 ประตู กับอีก 15 แอสซิสต์ คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลก ร่วมกับทัพสิงห์บลูส์อย่างละ 1 สมัย

เส้นทางการค้าแข้งของ ไค ฮาเวิร์ตซ์

ไค ฮาเวิร์ตซ์ เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง โดยคุณพ่อของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคุณแม่มีอาชีพเป็นทนาย ซึ่งดูเผินๆ แล้วนั้นหลายคนอาจจะคิดว่าในวัยเด็กเขาไม่น่าจะมีต้นตออะไรที่ทำให้เขาหลงใหลเกมฟุตบอลได้ อย่างไรก็ตามการที่ ริชาร์ด คุณลุงของเขาเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน รวมถึงเคยเป็นโค้ชให้ทีมฟุตบอลด้วย ทำให้เขาถ่ายทอดความชื่นชอบในเกมฟุตบอลไปสู่คนอื่นๆ ในครอบครัว นอกจากนี้คุณพ่อของเขายังเคยเล่นฟุตบอลเหมือนกันแต่เป็นในระดับสมัครเล่น ด้วยความที่คุณลุงของเขานั้นเป็นคนเลี้ยงดูเขาซะเป็นส่วนใหญ่ทำให้เขาหลงรักกีฬาฟุตบอลมากกว่าคนอื่นๆ เป็นพิเศษ แถมบ้านของตระกูล ฮาเวิร์ตซ์ ยังอยู่ใกล้กับสนามฟุตบอลของทีมท้องถิ่นด้วยทำให้ความรักในกีฬาฟุตบอลของเจ้าหนู ไค มีมากขึ้นไปอีก จนพออายุได้ 4 ขวบ เขาก็เริ่มเล่นให้ อเลมาเนีย มาเรียดอร์ฟ ทีมในย่านท้องถิ่นซึ่งเป็นทีมที่คุณลุงของเขาเคยเป็นประธานให้อยู่หลายปี ต่อมาครอบครัวของเขาได้เริ่มติดต่อกับทีมต่างๆ ในตอนที่เจ้าตัวมีอายุ 9 ขวบ เพื่อที่จะได้เป็นการปูทางให้เขามีอนาคตในอาชีพการค้าแข้งได้ จนพอเขาอายุได้ 10 ขวบ ไคก็ได้ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ อเลมาเนีย อาเช่น ทีมที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้น แต่เขาได้อยู่กับที่นั่นแค่ปีเดียวเนื่องจากฝีเท้าที่โดดเด่นไปเข้าตา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยเขาได้ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ เลเวอร์คูเซ่น ตอนอายุได้ 11 ขวบ และได้พัฒนาฝีเท้ามาได้เรื่อยๆ โดยในปี 2016 เจ้าตัวเคยทำได้ถึง 18 ประตูจาก 26 นัดจนทำให้ทีมเยาวชนของ เลเวอร์คูเซ่น ได้แชมป์ระดับประเทศในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

ต่อมาในวันที่ 15 ตุลาคม 2016 ไคได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น โดยเขาลงเป็นตัวสำรองในเกมลีกที่ทีมแพ้ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-2 แต่ตอนนั้นมันทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ประเดิมสนามในเกมลีกกับเลเวอร์คูเซ่นด้วยวัย17 ปีกับ 126 วัน โดยสถิตินั้นมาโดนทำลายในอีกราว 4 ปีต่อมา จากนั้นเขาก็มีส่วนร่วมในหน้าประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกา หลังจากเขาผ่านบอลให้ คาริม เบลลาราบี้ ทำประตูได้เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 2017 และนั่นถือเป็นประตูที่ 50,000 ของศึกบุนเดสลีกาพอดี และในวันที่ 2 เมษายนของปีเดียวกันเขาทำประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ได้ โดยเป็นเกมลีกที่เสมอ เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์บวร์ก 3-3 ทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงในลีกให้กับ เลเวอร์คูเซ่น ได้ ด้วยวัยเพียง 17 ปี ซึ่งในซีซั่น 2016-17 เขาได้ลงเล่นไป 24 นัดในลีก พร้อมกับยิงได้ 4 ลูก หลังจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อถึงวันที่ 14 เมษายน 2018 เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกาที่ลงเล่นในลีกถึงหลัก 50 นัด โดยตอนนั้นเขามีอายุแค่ 18 ปีกับ 307 วัน ซึ่งสุดท้ายแล้วซีซั่น 2017-18 เขายิงในลีกไป 3 ลูกจากการลงเล่น 30 เกม ต่อมาในฤดูกาล 2018-19 ถือเป็นซีซั่นที่เขาได้สร้างชื่อให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีกเพราะเขายิงในลีกได้ถึง 17 ลูกจากการลงเล่น 34 นัด ทำให้เขาถือเป็นดาวรุ่งที่ทำประตูในบุนเดสลีกาต่อ 1 ฤดูกาลได้เยอะที่สุด ซึ่งระหว่างทางเขายังเป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1967-68 ที่ยิงในบุนเดสลีกาได้อย่างน้อย 13 ลูกภายในฤดูกาลเดียวด้วย ส่งผลให้เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปีของฤดูกาลนั้นและเจ้าตัวได้รับเสียงโหวตเป็นที่ 2

ย้ายมาเล่นให้กับเชลซี

ต่อมาในซีซั่น 2019-20 ฮาเวิร์ตซ์ ยังสร้างสถิติให้ตัวเองเพิ่มได้อีกนั่นคือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในบุนเดสลีกาแตะหลัก 100 เกม ก่อนที่เขาจะปิดฤดูกาลนั้นด้วยผลงาน 12 ประตูจากการลงเล่นในลีก 30 นัด พร้อมกับเป็นที่หมายตาของหลายทีมซึ่งสุดท้ายแล้วก็เป็นเชลซีที่ดึงตัวเขาไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ 2020 หลังพวกเขายอมจ่ายเงินโดยรวมถึง 71 ล้านปอนด์จนทำให้แข้งรายนี้เป็นแข้งที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของเชลซี และเขาได้ประเดิมสนามกับทีมในเกม พรีเมียร์ลีกนัดที่ชนะไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-1 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2020 ก่อนที่ในวันที่ 23 กันยายนของปีเดียวกันเขาจะสร้างความฮือฮาด้วยการทำแฮตทริกในเกมคาราบาวคัพนัดที่ เชลซี ถล่ม บาร์นส์ลี่ย์ 6-0 โดยมันเป็นแฮตทริกแรกในอาชีพการเล่นของเขาด้วย และสุดท้ายเขามีส่วนช่วยให้ทีมได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกตั้งแต่ซีซั่นแรกของตัวเองกับเชลซีด้วยการทำประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศนัดที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 โดยนั่นเป็นประตูแรกของเขาในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเช่นกัน ซึ่งโดยรวมแล้วในฤดูกาล 2020-21 เขาทำไป 9 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ 45 นัด ต่อมาในฤดูกาล 2021-22 ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยังได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องซึ่งเขาได้ทั้งแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพและศึกชิงแชมป์สโมสรโลกร่วมกับทีม โดยรายการหลังเขาเป็นคนทำประตูชัยได้ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วในซีซั่น 2021-22 เขาทำไปได้ 14 ประตูจากการลงเล่น 47 นัดในทุกรายการแต่พอถึงซีซั่น 2022-23 เขายังได้ลงเล่นอยู่บ่อยๆ แต่ศักยภาพการทำประตูของเขาไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจนส่งผลให้ทีมมีผลงานดร็อปลงตามไปด้วยก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเป็นทางทัพปืนใหญ่ดึงตัวมาร่วมงาน

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends