photo football365.com

ย้อนกลับไปในซัมเมอร์ปี 2020 การซื้อตัวที่สร้างความตื่นตะลึงมากที่สุดในวงการฟุตบอลคงหนีไม่พ้นการที่ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลถึง 71 ล้านปอนด์ คว้าตัว ไค ฮาแวร์ตส์ กองกลางทีมชาติเยอรมัน มาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

🔥ดูพรีเมียร์ลีก ร่วมทายผลลุ้นโชคหลักหมื่น 👉https://sytgn.com/2023premierleague

หลังจาก ฮาแวร์ตส์ ย้ายมายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้น มันทำให้เจ้าตัวได้รับการบันทึกสถิติว่า เป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงลำดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของ เชลซี แม้ปัจจุบันจะขยับลงมาเป็นอันดับที่ 4 แล้วก็ตาม         

จอมทัพวัย 23 ปี ถูกเปรียบเทียบว่า มีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ มิชาเอล บัลลัค อดีตกองกลางรุ่นพี่ทีมชาติเยอรมัน ของ เชลซี และที่สำคัญทั้งคู่ยังเติบโตมากับ เลเวอร์คูเซ่น เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งทำให้สาวก “สิงโตน้ำเงินคราม” มองว่า พวกเขามี “นิว บัลลัค” อยู่ในทีมแล้ว

ไค ฮาแวร์ตส์ กับเส้นทางก่อนย้ายมาสู่ เชลซี

ในสมัยแจ้งเกิดใหม่ๆ กองกลาง “อินทรีเหล็ก” ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเตะอายุน้อยที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในเยอรมัน โดยลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น เป็นเกมแรกในซีซั่น 2016-2017 ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น

ฮาแวร์ตส์ เป็นนักฟุตบอลที่มีส่วนสูงถึง 6 ฟุต 2 นิ้ว มีทักษะการเอาตัวรอด และเทคนิคยอดเยี่ยมในบทบาทเพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 นอกจากนี้ เจ้าตัวยังสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลาง และขยับมายืนเป็นกองหน้าได้อีกด้วย

สมัยที่เล่นกับ เลเวอร์คูเซ่น นั้น ฮาแวร์ตส์ มักจะได้รับบทบาทเป็นกองกลางตัวรุกคอยสร้างสรรค์เกม แต่บางครั้งเขาก็ขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง, ตัวริมเส้นขวา และบางทีขยับขึ้นสูงไปเป็นกองหน้า แต่กับทีมชาติเยอรมันนั้น เขามักถูกใช้งานเป็นกองกลางตัวต่ำ

แฟนบอล “อินทรีเหล็ก” หลายคนมองว่า ฮาแวร์ตส์ เป็น “นิว บัลลัค”  ของพวกเขาเช่นเดียวกันกับที่สาวก เชลซี มอง เพราะ ไม่เพียงแต่ลักษณะทางร่างกายที่สูงใหญ่ และแข็งแกร่งหมือนกันเท่านั้น แต่ด้วยวิสัยทัศน์, การจ่ายบอลที่ฉลาดด และการสอดขึ้นไปทำประตูในหลายจังหวะ มันก็ทำให้อดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้

ฮาแวร์ตส์ เป็นกองกลางตัวรุกยุคใหม่ที่ผสมผสานกันระหว่างเทคนิค ความแข็งแกร่ง และความฉลาดเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ถูกกดดันได้อย่างสบาย ๆ และมักจะพาตัวเองไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ จากกองกลางสู่บทบาท False9 ที่

ไค ฮาแวร์ตส์
photo teamtalk.com

จากกองกลางสู่บทบาท False9 ที่ เชลซี  

แม้จะเพิ่งย้ายมาเล่นกับ เชลซี ได้เพียง 3 ปี แต่ ฮาแวร์ตส์ ก็ได้ร่วมงานกับกุนซือไปแล้วถึง 3 ราย ไล่ตั้งแต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิ่ล และล่าสุด แกรเฮม พ็อตเตอร์ ซึ่งบทบาทที่เจ้าตัวได้รับคือ การยืนเป็น False9 หรือกองหน้าตัวหลอกที่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั่วทั้งสนาม

เชลซี ชุดปัจจุบันมีตัวรุกริมเส้นฝีเท้าดีหลายราย อาทิ ฮาคิม ซิเยค, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คริสเตียน พูลิซิช, มิไคโล มูดริก และ โนนี่ มาดูเอเก้ แต่ยังไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้เลย และมันไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่เราจะเห็น ฮาแวร์ตส์ ต้องไปยืนเป็นกองหน้าตัวกลาง

แม้จะไม่ใช่กองหน้าประเภทเครื่องจักรถล่มประตูที่ยิงได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ความแข็งแกร่ง การเคลื่อนที่ ความฉลาด ความนิ่ง และวิสัยทัศน์ของ ดาวเตะชาวเยอรมัน ก็สร้างประโยชน์อย่างมหาศาล และเพิ่มมิติให้กับ เชลซี ได้อย่างมากมาย  

ภายใต้การทำงานร่วมกับ พ็อตเตอร์ นั้น ฮาแวร์ตส์ ก็ยังทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ และน่าประทับใจกับการยืนเป็นกองหน้าตัวกลาง ซึ่งเจ้าตัวเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี และสร้างปัญหาให้กับแนวรับคู่แข่งอยู่เสมอ

ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา อดีตกองกลาง เลเวอร์คูเซน ลงเล่นให้กับ เชลซี ไปมากถึง 127 เกม ซัดไป 31 ประตู พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์รายการสำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และ แชมป์สโมสรโลก ได้อย่างละ 1 สมัย

 เงินค่าตัวจำนวน 71 ล้านปอนด์ ที่ เชลซี จ่ายไปให้กับ เลเวอร์คูเซน เมื่อปี 2020 ดูเหมือนว่าจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และในวัยเพียงแค่ 23 ปี นั้น ฮาแวร์ตส์ สามารถยืนเป็นกำลังหลักในแนวรุกให้กับพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” รวมถึงทีมชาติเยอรมันไปได้อีกนานเลยทีเดียว 

🔶ทายผลพรีเมียร์ลีกใน 15 วินาที รับ iPhone 14 กลับบ้าน! 👉https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉https://sytgn.com/SYTlinefriends