Photo via Goal

แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างตกอยู่ในช่วงเป็นกังวลอย่างหนักเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางแม่ทัพประจำทีมมีอาการบาดเจ็บหนักที่กล้ามเนื้อแฮมสตริงจนต้องผ่าตัด ซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาพักประมาณ 5-6 เดือนเลยทีเดียว นั่นทำให้พวกเขาต้องวกกลับเข้าสู่ตลาดซื้อขายอีกครั้งซึ่งทีแรกหวยไปออกที่ ลูคัส ปาเกต้า มิดฟิลด์ของเวสต์แฮม แต่ทว่าตัวนักเตะกำลังถูกสอบสวนเรื่องพนันบอลทำให้พวกเขาต้องพับโครงการนี้ไป และล่าสุดทาง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ และ เดวิด ออร์นสตีน สองนักข่าวชื่อดังก็ได้รายงานตรงกันว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบนเข็มไปหา มาเตอุส นูเนส มิดฟิลด์ของวูล์ฟแฮมป์ตันแทน โดยยื่นข้อเสนอไปขั้นแรกที่ 50 ล้านยูโรให้ต้นสังกัดนักเตะพิจารณาแม้ว่านูเนสจะเหลือสัญญาถึงปี 2027 อย่างไรก็ตามด้วยสถิติในฤดูกาลที่ผ่านมาปรากฏว่านูเนสทำได้แค่ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ จนเกิดเป็นคำถามว่าเขาดีพอที่จะมาเป็นนักเตะของซิตี้หรือไม่ แล้วจะทดแทน เดอ บรอยน์ เช่นไร ซึ่งในบทความนี้เราจะขอพาทุกคนไปดูกับสถิติเบื้องลึกของเขา

สถิติเมื่อฤดูกาลก่อนของ มาเตอุส นูเนส

สำหรับ มาเตอุส นูเนส เพิ่งย้ายมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้แค่ฤดูกาลเดียวกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยในช่วงตลาดซื้อขาย 2022-23 เขาตกเป็นข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล เปิดศึกแย่งลายเซ็นแต่สุดท้ายเป็นทัพหมาป่าได้เขาไปครอง และตลอดฤดูกาล 2022-23 นูเนสถือว่าเป็นแข้งกำลังหลักของทีมโดยลงสนามไป 34 เกม รวมเวลา 2,474 นาที ใกล้เคียงกับ เดอ บรอยน์ ที่ลงสนามไป 32 เกม รวมเวลา 2,425 นาที แต่ทว่าเมื่อนำเฉพาะสถิติตัวเลขของทั้งสองมาเปรียบเทียบกันมันช่างดูไม่ยุติธรรมเลย เพราะ เดอ บรอยน์ ที่เป็นกองกลางสายจ่ายบวกกับสอดขึ้นมายิงพร้อมกับมีสถิติผ่านบอลตลอดฤดูกาล 2022-23 ไปทั้งสิ้น 1,357 ครั้งและสร้างโอกาสได้ 98 ครั้ง ขณะที่ นูเนส เป็นกองกลางประเภทพาบอลเข้าแดนคู่แข่งด้วยตัวเองกลับมีสถิติผ่านบอล 974 ครั้งและสร้างโอกาสได้แค่ 27 ครั้งเท่านั้น อีกสถิติที่ย้ำถึงสไตล์การเล่นที่แตกต่างของพวกเขาได้ชัดเจนก็คือฤดูกาลที่แล้ว เดอ บรอยน์ จ่ายบอลเข้าเขตอันตรายของคู่แข่งได้มากถึง 246 ครั้ง แต่นูเนสทำได้เพียง 84 ครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ นูเนส ทำได้ดีกว่า เดอ บรอยน์ ชัดเจนเต็มสองตานั่นคือการเล่นเกมรับและการพาบอลไปกับตัวโดย นูเนส เลี้ยงบอลไป 72 ครั้ง สำเร็จ 44 ครั้ง แต่ทาง เดอ บรอยน์ เลี้ยงบอลไป 51 ครั้งสำเร็จแค่ 32 ครั้ง ส่วนเกมรับบอกเลยว่าแข้งชาวโปรตุเกสก็ทำได้ดีกว่าโดยเขาเข้าปะทะไป 67 ครั้ง ชนะ 43 ครั้ง เคลียร์บอล 32 ครั้งและเข้าสกัด 16 ครั้ง ขณะที่ เดอ บรอยน์ เข้าปะทะ 28 ครั้ง ชนะ 12 ครั้ง เคลียร์บอล 10 ครั้งและเข้าสกัด 9 ครั้ง

แค่จากตัวเลขก็มองออกชัดเจนแล้วว่าสไตล์การเล่นระหว่าง นูเนส กับ เดอ บรอยน์ คนละเชิงแน่นอนซึ่งทางมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสเด่นที่เกมรับและการครองบอลกับการเลี้ยงบอลพาขึ้นแดนคู่แข่ง ส่วนทางกองกลางเบลเยี่ยมเก่งที่การจ่ายบอล ผ่านบอล และมีความเป็นแข้งเชิงรุกมากกว่ารับ ดังนั้นการที่ แมนซิตี้ คว้าตัว นูเนส อาจทดแทน เดอ บรอยน์ ไม่ได้ในเรื่องของการจ่ายบอลแต่อาจช่วยเพิ่มมิติเกมรุกให้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วยการพาบอลขึ้นหน้าด้วยวิธีเลี้ยงแทนการจ่ายทะลุช่อง เพราะทีมยังมี มาเตโอ โควาซิช ที่เป็นกองกลางสายบาลานซ์และ โรดรี้ ที่เป็นกลางรับกับรอเติมมายิงไกลอยู่แล้ว และถ้าหากเราลองจินตนาการว่า 3 แดนกลางของซิตี้เป็น นูเนส-โรดรี้-โควาซิช ก็ดูไม่เลวเลยทีเดียวเพราะเอกลักษณ์ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน อาจนำมาสู่ความลงตัวที่ไม่มีใครคาดถึงก็เป็นได้

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends