Photo via strettynews

นัดเปิดสนามฤดูกาลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดท้ายแล้วถึงจะคว้า 3 แต้มเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 แบบกระท่อนกระแท่นเพราะกว่าจะได้ประตูก็ปาไปช่วงท้ายเกมแถมยังเกือบเสียจุดโทษในช่วงทดเจ็บครึ่งหลังอีกต่างหาก แต่สิ่งที่ทำสาวกปีศาจแดงแปลกใจมากสุดกับเกมนี้คือแผนกองกลาง 3 ตัวที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในยุคของกุนซือ เอริค เทน ฮาก โดยเขาเลือกใช้ คาเซมิโร ยืนตรงกลางเป็นตัวตัดเกม ประกบข้างด้วย เมสัน เมาท์ ทางซ้าย และ บรูโน่ แฟร์นันเดส ฝั่งขวา ขณะเดียวกันปีกสองฝั่งในเกมนี้อย่าง การ์นาโช่ และ แอนโทนี่ ก็ถูกตั้งคำถามจากแฟนบอลไม่น้อย เมื่อแผนใหม่ดูท่าจะไม่เวิร์ค เอเลียตต์ แจ๊คสัน คอลัมนิสต์จาก Manchester Evening News จึงออกมาอธิบายถึงแผนการเล่นที่เหมาะสมของ ยูไนเต็ดไว้ได้น่าสนใจ เขามองว่าบางทีพวกเขาอาจกลับคืนสู่เบสิคเดิมที่เคยทำแบบฤดูกาลที่แล้วจนประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เริ่มแรกแจ๊คสันอธิบายว่าหัวใจหลักแดนกลางของยูไนเต็ดคือ คาเซมิโร ซึ่งแผนกองกลาง 3 ตัวที่ใช้ในเกมเจอวูล์ฟเขาคุ้นเคยดีอยู่แล้วสมัยอยู่ เรอัล มาดริด ที่มี ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส ประกบข้างแต่ทว่าสไตล์การเล่นของ เมาท์ และ บรูโน่ มีความเป็นเชิงรุกมากกว่าคุมจังหวะเกมเหมือนกับ โมดริช กับ โครส และถ้า เทน ฮาก ยืนกรานจะใช้กลาง 3 ตัวเหมือนเดิม แจ๊คสันมองว่าตัวเลือกที่ดีกว่ามาประสานงานกับ คาเซมิโร คือ แม็คโทมิเนย์ กับ อิริคเซ่น แล้วดัน เมาท์ ไปยืนปีกซ้ายส่วน บรูโน่ ยืนปีกขวาโดยมี แรชฟอร์ด เป็นหน้าเป้า อย่างไรก็ตาม ความเห็นของคอลัมนิสต์รายนี้อาจดูไม่เวิร์คเพราะ แม็คโทมิเนย์  ไม่ได้อัจฉริยะเท่า โมดริช กับ โครส

กระนั้นอีกสองตัวเลือกอย่าง ค็อบบี้ ไมนู และ ฟาน เดอ เบค ก็ดูน่าสนใจแต่ทว่าในรายหลังดูเหมือนจะหลุดจากวงโคจรของทีมไปแล้ว ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง ไมนู ในวัย 18 ปี ถ้าฝืนใช้งานหนักก็อาจโดนคู่แข่งเน้นเล่นงานทางเขาหรือไม่ก็เสี่ยงเจ็บไปเลยเหมือน สเตฟาน บายเซติซ ดาวรุ่งของลิเวอร์พูลวัย 18 ปีในซีซั่นก่อน เช่นเดียวกับปีกสองฝั่งถ้าหากทะลึ่งจับ บรูโน่ ไปเล่นปีกจริง ๆ ละก็อาจเสียของอย่างแรงเหมือนตอนที่เขาโดนจับไปเล่นปีกซ้ายในเกมบุกแพ้ลิเวอร์พูล 0-7 เมื่อฤดูกาลที่แล้วจนโด่งดัง ส่วนทาง เมาท์ กับตำแหน่งปีกซ้ายเขาก็พอคุ้นเคยอยู่แล้วสมัยเล่นที่เชลซี ซึ่งแจ๊คสันก็ยังกล่าวต่อว่าตัวเลือกเสริมทางปีกคือ มาร์กซิยาล ในทางซ้าย และ ซานโช่ ในทางขวาแล้วให้ แรชฟอร์ด ประจำการกองหน้าตัวเป้าถาวรไปเลย แต่ที่น่าสนใจกว่าคือการกลับไปใช้แผนเดิมเหมือนในฤดูกาลที่แล้ว (4-2-3-1) ที่มี คาเซมิโร ประจำกลางรับแล้วคอบผลัดจับคู่กับ อิริคเซ่น หรือ แม็คโทมิเนย์ โดยทั้งสองมีจุดเด่นต่างกันไปโดย อิริคเซ่น เก่งในการแทงบอลแนวลึกและเชื่อมเกม ขณะที่ แม็คโทมิเนย์ อาจจะเด่นเรื่องสอดมายิงประตูเหมือนกับตอนเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์ อีกทั้งการเข้ามาของ เมาท์ ยังเป็นการเติมเต็มในแผงกลางที่เขาสามารถยืนได้ทั้งปีกและกลางรุุกหรือจับไปยืนมิดฟิลด์ตัวกลางได้ในบางครั้ง ซึ่งแข้งทีมชาติอังกฤษรายนี้มีความสามารถในการทำประตูซึ่งเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของ บรูโน่ ได้ดี นอกจากนี้การได้ โอนาน่า ที่เป็นผู้รักษาประตูที่มีจุดเด่นเรื่องการออกบอลด้วยเท้าก็เหมาะกับแผนที่มีปีกอย่างมาก ซึ่งเขาสามารถสาดบอลยาวจากแดนหลังไปยังพื้นที่ว่างให้ปีกวิ่งไปรับบอลได้ง่ายขึ้น ซึ่งตำแหน่งนี้แน่นอนว่ามีทั้ง การ์นาโช่, มาร์กซิยาล และ ซานโช่ รอสแตนด์บาย

พิจารณาแผงมิดฟิด์ของแมนยู

ปิดท้ายในคอลัมน์ของแจ๊คสัน เขาเชื่อว่ามีโอกาสสูงมากที่ เทน ฮาก จะจับ บรูโน่ ไปยืนปีกขวาโดยเขาอ้างอิงคำพูดที่เคยกล่าวชื่นชมมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสหลังเกมที่ชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อเดือนเมษายนว่า “เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรตามหลังและปิดริมเส้น เขาสามารถเล่นได้หลายบทบาทจากทักษะมากมาย มันน่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับผู้เล่นอย่างเขา” แต่กระนั้น แกรี่ เนวิลล์ กูรูจาก Sky Sports กลับมองต่างออกไปโดยเขากล่าวหลังเกมว่าฤดูกาลนี้ปีศาจแดงเหนื่อยแน่ถ้าหวังจะเบียดแย่งแชมป์กับ อาร์เซนอล และ แมนซิตี้ “คงมีไม่กี่คนที่บอกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือทีมลุ้นแชมป์ในตอนนี้ แต่ตามความเป็นจริง เมื่อมองดูอาร์เซนอลว่าพวกเขาอยู่จุดไหนและพวกเขาซื้อนักเตะอย่างไรในช่วงซัมเมอร์นี้ และกลับมาดูแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขามีความพร้อมมากแค่ไหน ผมคิดว่ามันคงดูไม่สมจริงเท่าไหร่นักหากจะบอกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะมาท้าชิงตำแหน่งแชมป์ ตอนนี้ฮอยลุนด์อายุยังน้อย ส่วนโอนาน่าผมเชื่อว่าได้รับแรงกดดันมากแน่นอน แต่ผมเข้าใจว่าแรงกดดันมาจากไหนภายใต้การซื้อตัวของ เอริก เทน ฮาก”

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends