Photo via Foot Mercato

ก่อนที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะฤดูกาล 2023-24 จะเปิดอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เรามาลองดูกันว่า ณ เวลานี้นักฟุตบอลคนไหนที่ครองตำแหน่ง 10 อันดับนักเตะที่มีค่าตัวในการย้ายทีมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

Photo via Red Devil Armada

10.ปอล ป็อกบา 

(ปี 2016 ยูเวนตุส ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 105 ล้านยูโร)

ป็อกบา เคยอยู่ในทีมเยาวชนของ แมนฯยู 3 ปี ก่อนจะย้ายหนีไปอยู่กับ ยูเสนตุส ในปี 2012 ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมา ป็อกบา ที่ประสบความสำเร็จและคว้าแชมป์ได้มากมายกับทีมม้าลาย ก็ถูก แมนฯยู ในยุคของ โฆเซ่ มูรินโญ่ ก็ทุ่มเงินระดับสถิติสโมสรถึง 105 ล้านยูโร (89.3 ล้านปอนด์) บวกโบนัสอีก 5 ล้านปอนด์ เพื่อดึง ป็อกบา กลับมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ป็อกบา อยู่เล่นกับ ปีศาจแดง ถึง 6 ปี มีส่วนช่วยคว้าแชมป์บอลถ้วยให้ทีม 2 รายการ (ยูโรป้าลีก และ ลีกคัพ ฤดูกาล 2016-17) ก่อนที่ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ป็อกบา จะเลือกย้ายกลับมาไปอยู่กับ ยูเว่ แบบไม่มีค่าตัว

Photo via Sky Sports

9.อุสมัน เดมเบเล่

(ปี 2017 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ย้ายมา บาร์เซโลน่า ค่าตัว 105 ล้านยูโร)

ถือเป็นอีกหนึ่งดีลซื้อ-ขายนักเตะที่สร้างความประหลาดใจได้ไม่น้อย กับการที่ บาร์เซโลน่า ยอมทุ่มเงินถึง 105 ล้านยูโร บวกกับส่วนเสริมอีก 40 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัว อุสมัน เดมเบเล่ มาร่วมทีม ทั้งๆ ที่นักเตะเพิ่งจะสร้างชื่อกับ ดอร์ทมุนด์ ได้แค่ปีเดียว ซึ่งสื่อวิเคราะห์ว่า ที่ บาร์ซ่า ยอมทุ่มเงินแบบบ้าเลือดกับ เดมเบเล่ เพราะอยู่ในอาการตกใจหลังจากต้องเสีย เนย์มาร์ ไปให้กับ PSG แบบไม่ตั้งตัว หลังทีมมหาเศรษฐีเมืองน้ำหอมจ่ายค่าฉีกสัญญา 222 ล้านยูโร

Photo via The Times

8.โรเมลู ลูกากู

(ปี 2021 อินเตอร์ มิลาน ย้ายมา เชลซี ค่าตัว 115 ล้านยูโร)

ในปี 2011 เชลซี จ่ายเงิน 12 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัว ลูกากู สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งมาจาก อันเดอเลชท์ แต่ก็แทบไม่ได้ใช้งาน ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว ก่อนจะขายไปให้ เอฟเวอร์ตัน ใครจะคิดว่าอีก 10 ปีต่อมา เชลซี จะยอมทุ่มเงินมหาศาลถึง 115 ล้านยูโร (97.5 ล้านปอนด์) ดึง ลูกากู มาจาก อินเตอร์ มิลาน กลับมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้ง แต่ต้องบอกว่าดีลระหว่าง ลูกากู กับ เชลซี คือ 1 ในการย้ายทีมที่น่าผิดหวังสุดๆ ฤดูกาล 2021-22 ลูกากู ลงเล่นให้ เชลซี 44 เกม ทำได้แค่ 15 ประตู แถมตัว ลูกากู ก็ออกลูกงอแง ไม่มีความสุขที่จะเล่นให้ เชลซี สุดท้ายก็ขอย้ายกลับมาอยู่กับ อินเตอร์ แบบยืมตัวในซีซั่นที่ผ่านมา

Photo via The Indian Express

7.แจ็ค กรีลิช

(ปี 2021 แอสตัน วิลล่า ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 117 ล้านยูโร)

แจ็ค กรีลิช ทำสถิติเป็นนักเตะอังกฤษที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมในเวลานั้น แมนฯซิตี้ ก็ทำสถิติเป็นสโมสรที่้ทุ่มซื้อนักเตะแพงที่สุดของอังกฤษด้วยเช่นกัน ซึ่งเหตุผลที่ให้ค่าตัวของ กรีลิช สูงขนาดนี้ เป็นเพราะในเวลานั้นมีหลายทีมอยากได้อดีตจอมทัพของ แอสตัน วิลล่า ไปร่วมทีม ทั้ง ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ แมนฯยู ทำให้ แมนฯซิตี้ รอช้าไม่ได้รีบจัดการรวบหัวรวบห่าง ยอมทุ่มเงินระดับสถิติสโมสรคว้าตัวมาร่วมทีม ซึ่ง กรีลิช ก็ตอบแทนค่าตัว 117 ล้านยูโร ด้วยการพา แมนฯซิตี้ คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นถ้วยที่สโมสรรอมานาน

Photo via China Daily

6.อองตวน กริซมันน์

(ปี 2019 แอตเลติโก้ มาดริด ย้ายมา บาร์เซโลน่า ค่าตัว 120 ล้านยูโร)

บาร์เซโลน่า ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่า 120 ล้านยูโร (107 ล้านปอนด์) เพื่อคว้าตัว อองตวน กริซมันน์ มาร่วมทีม แต่การย้ายทีมครั้งสร้างความไม่พอใจให้ แอตฯมาดริด ต้นสังกัดเดิมของ กริซมันน์ เพราะเงื่อนไขที่ ทีมตราหมี ทำไว้กับ กริซมันน์ ถ้านักเตะย้ายทีมก่อน 1 กรกฎาคม 2019 ค่าฉีกสัญญาจะอยู่ที่ 200 ล้านปอนด์ แต่หลังจากนั้นค่าฉีกสัญญาจะลดลงเหลือ 120 ล้านยูโร ซึ่ง ทีมตราหมี มองว่า บาร์ซ่า ควรต้องจ่าย 200 ล้านยูโร เป็นค่าฉีกสัญญาของ กริซมันน์ ไม่ใช่แค่ 180 ล้านยูโร เพราะมองว่า บาร์ซ่า กับ กริซมันน์ ไปคุยเรื่องย้ายทีมกันก่อนหน้านี้แล้ว

Photo via Sports Brief

5.เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ

(ปี 2023 เบนฟิก้า ย้ายมา เชลซี ค่าตัว 121 ล้านยูโร)

เชลซี ในยุคที่มีเจ้าของเป็นหมาเศรษฐีชาวอเมริกันอย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ ที่จัดหนักงบก้อนโต้ให้ทีมช้อปปิ้งนักเตะแบบไม่อั้น เชลซี เริ่มตามจีบ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ อย่างจริงจังในช่วงเดือนมกราคม 2023 หลังจากนักเตะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกร่วมกับอาร์เจนตินา แต่ต้นสังกัดอย่าง เบนฟิก้า ถึงขั้นออกแถลงการณ์ว่าไม่มีทางขายนักเตะแน่นอน นอกจากจะมีทีนไหนที่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาที่ 121 ล้านยูโร (106.8 ล้านปอนด์) ทั้งๆ ที่ เบนฟิก้า เพิ่งจะซื้อ เอ็นโซ่ มาจาก ริเวอร์เพลท แค่ 18 ล้านยูโร เมื่อ 6 เดือนก่อน เชลซี พยายามเจรจาอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา คว้าตัว เอ็นโซ่ มาร่วมทีมในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ 

Photo via Bleacher Report

4.เจา เฟลิกซ์

(ปี 2019 เบนฟิก้า มาดริด ย้ายมา แอตเลติโก้ มาดริด ค่าตัว 126 ล้านยูโร)

หลังจากสร้างชื่อกับ เบนฟิก้า ในฤดูกาล 2018-19 ด้วยผลงาน ยิง 20 ประตูจากการลงเล่น 43 เกม ซึ่งหลังจบฤดูกาลดังกล่าว แอตฯมาดริด ทุ่มเงินมูลค่า 126 ล้านยูโร (113 ล้านปอนด์) คว้าตัว เฟลิกซ์ มาร่วมทีม ปาดหน้าหลายทีมใหญ่ที่ก็อยากได้แข้งดาวรุ่งพรสวรรค์สูงคนนี้ไปร่วมทีม แต่ถ้าดูจากจำนวนเงินที่ทีมตราหมีจ่ายไป ก็คงยากที่จะมีทีมไหนกล้าสู้ ซึ่ง เฟลิกซ์ ทำสถิติเป็นนักเตะที่มีค่าตัวในการย้ายแพงที่สุดของ แอตฯมาดริด และก็เป็นนักเตะที่ เบนฟิก้า ขายออกไปในราคาแพงที่สุดเช่นกัน 

Photo via Sky Sports

3.ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

(ปี 2018 แอตเลติโก้ มาดริด ย้ายมา บาร์เซโลน่า ค่าตัว 145 ล้านยูโร)

คูตินโญ่ แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เพราะต้องการมีโอกาสคว้าแชมป์ หลังจากเล่นในถิ่นแอนฟิลด์มาถึง 5 ปี ลงเล่น 201 เกม ทำได้ 54 ประตู กับ 45 แอสซิสต์ แต่กลับไม่มีเคยได้ชูถ้วยรางวัล บาร์ซ่า ยอมทุ่มเงินมากถึง 145 ล้านยูโร คว้า คูตินโญ่ ไปร่วมทีม ซึ่งฝันของ คูตินโญ่ เป็นจริง คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน 2 ปีติด แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนไม่หยุด ทำให้ คูตินโญ่ เข้าๆ ออกๆ ในทีมเจ้าบุญทุ่ม โดนปล่อยยืมไปอยู่กับทั้ง บาเยิร์น และ แอสตัน วิลล่า ทำให้รวมๆ แล้ว 145 ล้านยูโรของ คูตินโญ่ คือเป็นการย้ายทีมที่น่าผิดหวัง

Photo via El Confidencial

2.คิเลี่ยน เอ็มบัปเป้

(ปี 2018 โมนาโก ย้ายมา PSG ค่าตัว 180 ล้านยูโร)

PSG คว้าตัว เอ็มบัปเป้ มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว ในปี 2017 ก่อนจะซื้อขาดในฤดูกาลถัดมา ด้วยค่าตัวสูงถึง 180 ล้านยูโร (163 ล้านปอนด์) ทำสถิติเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีค่าตัวสูงในสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่ง PSG สามารถเอาชนะ เรอัล มาดริด ที่ในเวลาก็ยื่นข้อเสนอที่จะดึง เอ็มบัปเป้ ไปร่วมทีมเช่นกัน เพราะ PSG การันตีตัวจริงให้กับ เอ็มบัปเป้ ในขณะที่เวลานั้น เรอัล มาดริด ยังมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า และ แกเร็ธ เบล โอกาสลงสนามอาจมีไม่มากนัก

Photo via Sky News

1.เนย์มาร์

(ปี 2017 บาร์เซโลน่า ย้ายมา PSG ค่าตัว 222 ล้านยูโร)

ถือเป็นการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เมื่อ PSG ทุ่มเงินมากถึง 222 ล้านยูโร เพื่อจ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาคว้าตัว เนย์มาร์ จาก บาร์เซโลน่า ซึ่งถ้าดูจากจำนวนเงินที่ถูกตั้งเอาไว้ บาร์ซ่า ก็คงไม่คาดคิดว่าจะมีสโมสรไหนที่กล้าจ่าย แต่เมื่อมีข้อเสนอจาก PSG ยื่นเข้ามา ตามกฎของลาลีกา จะเป็นเรื่องของนักเตะที่เป็นคนตัดสินใจ สโมสรต้นสังกัดทำได้แค่รอรับเงินเท่านั้น แม้ว่าจำนวนเงินจะมหาศาล แต่ บาร์ซ่า ดูจะไม่ปลื้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เสียหน้า หลังจากจำใจปล่อยให้ เนย์มาร์ ย้ายไปซบ PSG บาร์ซ่า ก็แก้เกมด้วยการฟ้องร้อง เนย์มาร์ ให้จ่ายคืนโบนัสการต่ออายุสัญญาที่ เนย์มาร์ ได้รับจำนวน 8.5 ล้านยูโร และดอกเบี้ยอีก 10% สำหรับการค้างชำระ โดย บาร์ซ่า มองว่าการย้ายไปอยู่กับ PSG เป็นการทำผิดสัญญาของ เนย์มาร์

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends