หลังจากที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด” มีโปรแกรมต้องลงเล่นพบกับทีมในระดับ BIG 7 ติดต่อกันเป็นนัดที่สอง โดยเกมนี้ทัพสาลิกาดงจะต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมแชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย อย่าง “ลิเวอร์พูล” ซึ่งทีมนี้เป็นทีมที่พวกเขาไม่เคยเอาชนะได้เลยเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของเจ้าบ้าน
19 สิงหาคม 2023 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
12 สิงหาคม 2023 ชนะ แอสตัน วิลล่า 5-1 (พรีเมียร์ลีก)
6 สิงหาคม 2023 ชนะ บียาร์เรอัล 4-0 (อุ่นเครื่อง)
5 สิงหาคม 2023 ชนะ ฟิออเรนตินา 2-0 (อุ่นเครื่อง)
29 กรกฎาคม 2023 ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (อุ่นเครื่อง)
วิเคราะห์ความพร้อมของนิวคาสเซิล
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจต้องรอลุ้นก่อนเกมอีกครั้งว่า โจลินตัน จะพร้อมลงสนามเป็นตัวจริงหรือไม่หลังจากที่แข้งทีมชาติบราซิลได้รับบาดเจ็บจากเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนข่าวดีก็พอจะมีอยู่บ้างเมื่อ ฆาเบียร์ มานกิโย่ หายเจ็บกลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมได้อีกครั้ง ทั้งนี้หาก โจลินตัน ไม่พร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงก็ต้องมาดูใจของ เอ็ดดี้ ฮาว ว่าจะให้โอกาสใครได้ลงสนามก่อนกันระหว่างกลางเชิงรุกอย่าง เอลเลียต แอนเดอร์สัน และตัวรับอย่าง ฌอน ลองสตาฟฟ์ ส่วนทาง บรูโน่ กิมาไรส์ กับ ซานโดร โตนาลี ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งคู่ต่างพร้อมลงเล่นในเกมนี้เช่นเดียวกับ มิเกล อัลมิรอน และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค
นักเตะบาดเจ็บ : เอมิล คราฟธ์, โจ วิลล็อค, โจลินตัน (เช็คฟิต)
11 ตัวจริงที่คาด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-3-3) : นิค โป๊ป – คีแรน ทริปเปียร์, สเวน บอทแมน, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น – บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี, เอลเลียต แอนเดอร์สัน – มิเกล อัลมิรอน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทีมเยือน
19 สิงหาคม 2023 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
13 สิงหาคม 2023 เสมอ เชลซี 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
7 สิงหาคม 2023 ชนะ ดาร์มสตัดต์ 3-1 (อุ่นเครื่อง)
2 สิงหาคม 2023 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3-4 (อุ่นเครื่อง)
30 กรกฎาคม 2023 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 (อุ่นเครื่อง)
วิเคราะห์ความพร้อมก่อนเกม
ในเกมที่ผ่านมา สเตฟาน ไบจ์เซติช กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองอีกครั้งซึ่งสวนทางกับ เคอร์ติส โจนส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ อาจจะต้องรอเช็ความฟิตอีกครั้งหลัง เจอร์เกน คล็อปป์ ออกมาเปิดเผยว่าแนวรับของเขายังคงมีอาการตึง ๆ ที่กล้ามเนื้อ ส่วนในรายของ เทรนต์ และหลุยส์ ดิอาซ ที่เหมือนจะบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีปัญหาสำหรับเกมนี้ ซึ่งอาการที่ยัง 50/50 ของ อิบราฮิมา โกนาเต้นั้นอาจจะทำให้คล็อปป์ยังไม่เสี่ยงส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้และหันไปเลือก โจเอล มาติป ลงเล่นร่วมกับ เวอร์จิล ฟานไดค์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนในแดนกลางคาดว่า วาตารุ เอ็นโดะ อาจได้ประเดิมเป็นตัวจริงเสียที โดยมี โดมินิค โซบอสซ์ไล และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่เพิ่งอุทธรณ์โทษแบนสำเร็จเป็นคนปั้นเกมรุก
นักเตะบาดเจ็บ : เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้ อัลคันทารา, คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต (เช็คฟิต)
11 ตัวจริงที่คาดของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบคเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟานไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – วาตารุ เอ็นโดะ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โจต้า, หลุยส์ ดิอาซ
ผลงานในการพบกันของทั้งสองทีม
18 กุมภาพันธ์ 2023 นิวคาสเซิล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
31 สิงหาคม 2022 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
30 เมษายน 2022 นิวคาสเซิล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
16 ธันวาคม 2021 ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิล 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
24 เมษายน 2021 ลิเวอร์พูล เสมอ นิวคาสเซิล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
วิเคราะห์ผลการแข่งขัน
ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลจะเป็นดั่ง “ของแสลง” สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาไม่เคยคว้าชัยชนะเหนือ “หงส์แดง” มาเป็นเวลา 13 นัดติดต่อกันและมันก็กินเวลานานถึง 8 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ทัพสาลิกาดงไม่ใช่ทีมเดิมอีกต่อไปและพวกเขาสามารถยกระดับกลับขึ้นมาเป็นทีมใหญ่ได้อีกครั้ง ดังนั้นการได้เล่นภายใต้ชายคา เซนต์ เจมส์ พาร์ค ที่ไม่ต่างอะไรจาก “นรกของทีมเยือน” จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ “เดอะ แม็กพาย” ล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จ
สกอร์ที่คาด : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023
🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends