พัค ฮัง ซอ
Photo via vietnam

หลังจากความแพ้ของทีมชาติไทยต่อทีมชาติจีน 1-2 ในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ทำให้กระแสเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงโค้ชเกิดขึ้นอย่างมาก ซึ่ง 2 คนที่กำลังเป็นข่าวว่าสนใจจะมาคุมทีมแทนที่ มาโน่ โพลกิ้ง ได้แก่ มาซาดาดะ อิชิอิ อดีตโค้ชของบุรีรัมย์ และ พัค ฮัง ซอ อดีตโค้ชของทีมชาติเวียดนาม วันนี้เราจึงจับโค้ชทั้งสองคนมาเทียบกันว่าระหว่าง อิชิอิ และ พัค ฮัง ซอ ใครมีจุดเด่นและจุดด้อยตรงไหน และใครเหมาะกับการเป็นโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่มากกว่ากัน

อิชิอิ และ พัค ฮัง ซอ : เปิดจุดเด่น-จุดด้อย ใครเหมาะเป็นโค้ชใหม่ทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ

จุดเด่น

จุดเด่นของอิชิอิคือผ่านการทำงานในประเทศไทยมาแล้วหลายปี ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องปรับตัวกับระบบฟุตบอลแบบไทยๆ ซึ่งเขาก็อาจจะสามารถทำงานร่วมกับผู้มีอำนาจในสมาคมฟุตบอลไทยได้อย่างไม่ยาก และอิชิอิก็เคยมารับตำแหน่งประธานเทคนิคทีมชาติไทยอยู่ช่วงหนึ่งจึงน่าจะคุ้นเคยกับระบบการทำงานภายในของทีมชาติไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ อิชิอิ ยังมีประสบการณ์ในการคุมสโมสรไทยทั้งทีมระดับใหญ่ลุ้นแชมป์แบบบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือทีมที่เล็กกว่าอย่างสมุทรปราการ ซิตี้ ดังนั้นอิชิอิจะมีความเข้าใจนักเตะไทยทุกรูปแบบทั้งนักเตะระดับทีมชาติไปจนถึงแข้งรากหญ้า ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่เขาทำงานกับฟุตบอลไทยได้สะดวก รวมถึงแทคติคของอิชิอิยังมีความหลากหลาย สามารถแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะคุมทีมใหญ่ หรือทีมเล็ก ก็สร้างทีมที่ผลงานดีได้ตลอด รวมถึงมีวิธีการสร้างแทคติคด้วยฟุตบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งถูกใจนักฟุตบอลทีมชาติไทยมากกว่า

มาซาทาดะ อิชิอิ
Photo via bangkokpost

จุดด้อย

จุดด้อยของอิชิอิก็คือส่วนหนึ่งจากจุดเด่นของเขานั่นคือเพราะว่าอิชิอิทำงานในไทยมานาน ดังนั้นเขาสามารถที่จะทำงานในระบบแบบไทยๆต่อไปได้ ซึ่งคงไม่ตอบโจทย์แฟนบอลไทยบางส่วนที่อยากเห็นทีมชาติไทยทำงานแบบมืออาชีพมากขึ้น ลดระบบพวกพ้องให้น้อยลงและยิ่งอิชิอิอยู่ในไทยมานานเขาจึงย่อมเคยผ่านประสบการณ์การล้วงลูกจากคนมีอำนาจ หากอิชิอิได้เป็นโค้ชทีมชาติไทย ก็คงมีการล้วงลูกเกิดขึ้นเช่นเดิม และอาจเกิดปัญหาเหมือนยุคปัจจุบันของ มาโน่ โพลกิ้ง เช่น การยอมให้สโมสรไม่ปล่อยนักเตะมาเล่นทีมชาติในเกมอุ่นเครื่อง

พัค ฮัง ซอ

จุดเด่น

จุดเด่นของพัค ฮัง ซอ คือความเด็ดขาดและความเอาจริงเอาจังซึ่งถือเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในทีมชาติไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่า พัค ฮัง ซอ จะไม่ยอมให้ใครมาล้วงลูกการทำงานของเขาและเขาต้องมีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในการสร้างทีม ซึ่งวิธีนี้ได้ผลมาแล้วกับทีมชาติเวียดนามจึงย่อมมีสิทธิ์จะประสบความสำเร็จกับไทยแน่นอน อีกทั้งการให้โอกาสโค้ชทำงานด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ก็ย่อมดีกว่าให้คนนอกมาล้วงลูกอยู่แล้ว นอกจากนี้ พัค ฮัง ซอ ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการซ้อมที่เข้มข้นและมีระเบียบวินัยซึ่งก็เหมาะกับทีมชาติไทยในตอนนี้ที่ดูขาดระเบียบวินัยและความดุดันในการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมากทั้งในสนามแข่งและสนามซ้อมดังนั้น หากคุณเบื่อฟุตบอลแบบ “ไทยๆ” พัค ฮัง ซอ คือคนที่เหมาะสมกับการเข้ามารีเซ็ตระบบใหม่ให้ทีมชาติไทยเดินเข้าสู่การทำงานที่มีระบบและระเบียบมากขึ้น

จุดด้อย

จุดด้อยคือด้วยการทำงานที่ดุดันและจริงจังของพัค ฮัง ซอ ก็ถือว่ามีสิทธิ์มากที่จะทำให้เขามีปัญหากับคนในทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารหรือตัวนักฟุตบอล นอกจากนี้แทคติคของ พัค ฮัง ซอ ยังเน้นความมีระเบียบวินัย การเล่นเป็นระบบ และต้องเป็นไปตามแผนการที่เข้าสั่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นักฟุตบอลไทยชอบ อีกทั้งแทคติคของโค้ชชาวเกาหลีใต้ยังนิยมเกมตั้งรับและสวนกลับอย่างเป็นระบบ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่นักฟุตบอลไทยชื่นชอบอีกเช่นเดียวกัน เพราะ มิโลวาน ราเยวัช ก็เคยมีข่าวลือว่าถูกนักเตะเลื่อยขาจนตกเก้าอี้โค้ชทีมชาติไทยเพราะใช้แทคติคฟุตบอลเกมรับมาแล้ว

ใครเหมาะเป็นโค้ชใหม่ทีมชาติไทยมากกว่ากัน

คำตอบก็คือเหมาะทั้งคู่ขึ้นอยู่กับว่าต้องการสไตล์ไหน ถ้าไม่ได้มีปัญหากับการทำงานแบบไทย ๆ แค่ต้องการโค้ชที่เก่งขึ้นคำตอบคือ มาซาทาดะ อิชิอิ แต่ถ้าเบื่อการทำงานแบบไทย ๆ และต้องการปฏิวัตฟุตบอลไทยใหม่ อยากเห็นฟุตบอลที่มีระเบียบเล่นเป็นระบบ ทั้งในและนอกสนามคำตอบคือ พัค ฮัง ซอ

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends