Photo via Manchester United

ฟิล โจนส์ เตรียมโบกมือลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจบฤดูกาลนี้ เมื่อสัญญาของเขากับสโมสรสิ้นสุดลง โดยกองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษย้ายจาก แบล็คเบิร์ม โรเวอร์ส มาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปี 2011 เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับสโมสรในฤดูกาล 2012-13 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่คุมทีมปีศาจแดง

ปัจจุบัน โจนส์ อายุ 31 ปี เคยติดทีมชาติอังกฤษ 27 นัด และลงเล่นให้ แมนฯยู ไปทั้งหมด 229 นัด และยิงได้ 6 ประตู

Photo via Fırtına Haber

ฟิล โจนส์ ได้บรรยายความรู้สึกของตัวเองในวันที่ต้องตัดสินใจอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่เขารับใช้มากกว่า 10 ปี ผ่านทั้งช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ และช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวด จากดาวรุ่งในยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลายเป็นนักเตะที่โชคร้ายถูกอาการบาดเจ็บหนักรุมเร้าจนแทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมฟุตบอลตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา

และนี่คือความรู้สึกของ ฟิล โจนส์ ถึงแฟนบอลปีศาจแดง ในวันที่เขาต้องอำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

“ผมพยายมคิดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะถ่ายทอดคำพูดของผมต่อทุกคน และรู้สึกว่าผมต้องการเข้าถึงแฟนๆ ที่สนับสนุนผมตลอดเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” 

“มันยากเสมอที่จะต้องออกจากสโมสร ผมเคยทำเช่นนั้นมาแล้วกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อหลายปีก่อนด้วยวัยเพียง 19 ปี แต่ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา”

“ช่วงเวลาของผมกับยูไนเต็ดเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก เมื่อผมตัดสินใจย้ายออกจาก แบล็คเบิร์น ผมต้องการพิสูจน์ตัวเอง ผมเป็นตัวแทนของสโมสรในวัยเด็กของผมและใช้ชีวิตตามความฝัน แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่าการอยู่ที่ แบล็คเบิร์น อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมสามารถทำอะไรได้ในเกมระดับสูงสุด”

Photo via UtdXclusive twitter

“ผมมีความกระหายในตัวของผม และผมรู้ว่าสามารถที่จะทำสิ่งนั้นต่อไปกับสโมสรที่สามารถท้าทายได้ทุกอย่าง ผมได้รับข้อเสนอจากบางสโมสร แต่ผมรอและรอการติดต่อจาก ยูไนเต็ด วันหนึ่งในวันหยุด โทรศัพท์ดังขึ้นจากเซอร์อเล็กซ์”

“วันนั้นผมยกเลิกวันหยุด ผมแทบรอไม่ไหวที่จะพบเขา ผมแทบรอไม่ไหวที่จะเซ็นสัญญา และที่สำคัญที่สุดคือรอไม่ไหวแล้วที่จะเริ่มต้น มีเพียงสโมสรเดียวเท่านั้นที่ผมต้องการเดินทางต่อไปในเกม”

“การได้สวมเสื้อแข่งของแมนฯยู การได้สวมเสื้อที่มีตราสโมสรนี้และเป็นตัวแทนของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมัน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

“ผมหวังว่าผมจะได้เล่นมากกว่านี้ ผมหวังว่าผมจะให้มากกว่านี้กับหลายๆ ทีมที่ผมเล่นด้วย ผมอยากจะบอกจากก้นบึ้งของหัวใจ ผมทำทุกอย่างที่ทำได้ ผมทำทุกอย่างตามที่ทีมแพทย์แนะนำกับผม”

“ผมไม่เคยละทิ้งเป้าหมายในการไล่ตามความฝันของผมและเป็นตัวแทนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสนาม ผมใช้เวลาหลายวันที่ยากลำบากและต้องห่างจากครอบครัว เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ฟื้นฟูร่างกาย ต้องยอมห่างจากสนามฝึกซ้อม ซึ่งผมรู้สึกหมดหวังที่จะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง”

“ผมเคยบอกไปแล้วว่าผมพบว่ามันยากที่จะแม้แต่จะพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม ผมเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ ผมเจ็บปวดที่ครอบครัวไม่ได้เจอผมในวันแข่งขัน คุณรู้สึกเหมือนกำลังทำให้คนอื่นผิดหวัง”

Photo via The Mirror

“บางครั้งในชีวิต มีหลายสิ่งที่เราไม่ชอบเกิดขึ้น แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมันและทำใจให้สงบว่าเราทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเอาชนะความท้าทายในอาชีพการงานและชีวิตของคุณ นั่นคือทั้งหมดที่เราทำได้”

“มันเกี่ยวกับการลุกขึ้นจากความพ่ายแพ้และก้าวต่อไป นี่คือบทเรียนที่ผมจะผลักดันไปสู่ความท้าทายครั้งต่อไป ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ข้างหน้า”

“ผมใช้ชีวิตตามความฝันกับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ที่ยูไนเต็ด ผมคว้าถ้วยรางวัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแชมป์พรีเมียร์ลีกภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร”

“ไม่ใช่เวลาที่จะต้องเสียใจ แต่มันเป็นเวลาที่ต้องมองย้อนกลับไป เพื่อตัวผมและครอบครัว และมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตตามความฝันที่ยูไนเต็ด ผมสามารถพูดกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของผมได้เสมอว่ามีคนไม่มากนักที่จะได้เล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ ที่จะอยู่ในประวัติศาสตร์เสมอ และสามารถมองย้อนกลับไปด้วยความทรงจำที่มีความสุขเช่นนี้”

“ผมขออวยพรให้ อีริค เทน ฮาก และทีมงานของเขา รวมถึงผู้เล่นทุกคนโชคดีที่สุดสำหรับอนาคต เขากำลังสร้างบางสิ่งที่นี่ และผมจะเฝ้าดู สนับสนุน และหวังให้ทีมประสบความสำเร็จมากกว่าใครๆ เชื่อว่าเขาจะสามารถพาสโมสรก้าวไปข้างหน้า สานต่อจากสิ่งที่เราทุกคนเห็นได้อยู่ในตอนนี้”

“ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือผมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซึ่งผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่จะเป็นเพื่อนของผมไปตลอดชีวิต”

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends