Photo via Bleacher Report

แม้ว่าอาการบาดเจ็บจะเป็นเรื่องที่คู่กับนักฟุตบอล  แต่เชื่อว่าถ้าเลือกได้คงไม่มีนักเตะคนไหนอยากโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน เพราะอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะ ถูกคู่แข่งเสียบสกัดหนัก บ่อยครั้งที่อาจกลายเป็นฝันร้ายที่ยากจะลืมของนักฟุตบอล เพราะมันอาจเป็นต้นเหตุทำให้นักฟุตบอลคนนั้นต้องปิดฉากอาชีพของตัวเองไปตลอดกาล

ที่ผ่านมามีนักเตะหลายรายที่ต้องบอกว่าอาชีพนักฟุตบอลก่อนเวลาอันควร ด้วยสาเหตุจากอาการบาดเจ็บ ลองมาย้อนดูกันดีกว่าว่ามีนักเตะคนไหนที่ประสบชะตากรรมที่น่าเศร้าเพราะอาการบาดเจ็บ

Photo via Sports Illustrated

1.ดีน แอชตัน

กองหน้าชาวอังกฤษ ของสโมสรเวสต์แฮม และ นอริช ที่ต้องแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น จากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ข้อเท้า แอชตัน ได้รับบาดเจ็บหนักตอนที่เจ้าตัวถูกเรียกไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษเมื่อเดือนสิงหาคม 2006 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงซ้อมจากจังหวะเข้าปะทะกับ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ จนทำให้ แอชตัน ต้องพักรักษาตัวร่วมปี แม้จะกลับมาลงสนามได้ในซีซั่นถัดมา แต่ แอชตัน ก็มาโดนอาการบาดเจ็บพรากไปอีกในฤดูกาล 2008-09 และ 2009-10 จนในที่สุดก็ฝืนต่อไปไม่ไหวต้องประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด

Photo via Liverpool FC Twitter

2.เจมี่ เรดแนปป์

กองกลางหน้าหล่อที่โด่งดังสุดๆ สมัยเล่นให้ ลิเวอร์พูล แต่จุดพลิกผันในอาชีพนักฟุตบอลของเจ้าตัวเกิดจากอาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าในฤดูกาล 2000-01 จนต้องพักรักษาตัวตลอดทั้งซีซั่น หลังจากหายเจ็บกลับมาก็ไม่มีตำแหน่งในทีมหงส์แดง สุดท้ายแม้จะย้ายไปอยู่กับทั้ง สเปอร์ และ เซาแธมป์ตัน แต่ก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งสมัยเล่นกับ ลิเวอร์พูล กลับมาได้อีกเลย สุดท้าย เรดแนปป์ ก็ตัดใจเลือกแขวนสตั๊ดในวัย 31 ปี

3.ปิแอร์ลุยจิ กาซิรากี้

กองหน้าชาวอิตาลีที่ก่อนจะย้ายมาเล่นกับ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก กาซิรากี้ เป็น 1 ในศูนย์หน้าฟอร์มแรงของยุคนั้นตอนที่เล่นให้กับ ลาซิโอ แต่การย้ายมาเล่นกับ เชลซี คือฝันร้ายตลอดกาลของเขา นอกจากจะทำประดูได้น้อยแล้ว เจ้าตัวยังต้องมาเจอกับอาการบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่าจากการปะทะกับ ชาก้า ฮิสลอป นายประตูของ เวสต์แฮม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1998 หลังจากผ่าตัดถึง 10 ครั้งแต่อาการบาดเจ็บก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุด กาซิรากี้ ก็ต้องจำใจยอมแขวนสตั๊ดในอีกไม่ถึง 2 ปีให้หลัง

Photo via The Times

4.ดาวิด บุสต์

ดาวิด บุสต์ เป็นอีกหนึ่งนักเตะโชคร้ายที่บาดเจ็บถึงขั้นขาหักจากจังหวะเข้าปะทะหนัก จนไม่สามารถกลับมาลงสนามในฐานะนักฟุตบอลได้อีก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่ โคเวนทรี ต้นสังกัดของ บุสต์ เจอกับทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุสต์ โดนเข้าสกัดหนักจาก เดนนิส เออร์วิน และ ไบรอัน แมคแคลร์ จนขาหักรุนแรง ถึงขนาดมีเลือดออก ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์บาดเจ็บในสนามฟุตบอลที่สยดสยองน่ากลัวมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล แม้ว่าจะมีความพยายามผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บของ บุสต์ หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยให้เจ้าตัวกลับมาเล่นบอลได้อีก ทำให้ต้องยอมแขวนสตั๊ดไปในที่สุด โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณ 1 ปี แมนฯยู ได้จัดแมตเกียรติยศให้กับ บุสต์ โดยเจ้าตัวได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง และมีชื่อเป็นผู้ทำประตูจากลูกจุดโทษ

Photo via SportMob

5.เซบาสเตียน ไดส์เลอร์

ไดส์เลอร์ ถูกยกย่องว่าเป็นเพชรเม็ดงานของฟุตบอลเยอรมัน หลังจากสร้างชื่อกับ แฮธ่า เบอร์ลิน สมัยเป็นดาวรุ่ง ก่อนจะได้ย้ายมาอยู่กับทีมมหาอำนาจลูกหนังเยอรมันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค เส้นทางในวงการฟุตบอล ไดส์เลอร์ ดูแล้วน่าจะสวยหรูสุดๆ แต่แล้วอาการบาดเจ็บหนักก็มาเยือนโดยไม่คาดฝัน แม้จะพยายามรักษาแต่ก็ไม่หายขาด ที่แย่กว่านั้นคือมันส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้ ไดส์เลอร์ มีอาการซึมเศร้า ท้อใจกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง จนหมดใจอยากจะเล่นฟุตบอล สุดท้าย ไดส์เลอร์ ก็เลือกอำลาวงฟุตบอลไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปีเท่านั้น

Photo via Sky Sports

6.โอเว่น ฮาร์กรีฟส์

เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ถ้าไม่โดนอาการบาดเจ็บมาขัดขวางซะก่อน โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ โด่งดังและสร้างชื่อกับ บาเยิร์น มิวนิค แม้จะเล่นในต่างแดนแต่ก็ถูกเรียกมาติดทีมชาติอังกฤษ ซึ่ง ฮาร์กรีฟส์ ก็ทำผลงานในการเล่นให้กับทีมชาติได้อย่างยอดเยี่ยม จนในที่สุด แมนฯยู ก็ตัดสินใจทุ่มเงิน 17 ล้านปอนด์ดึงตัวมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ ฮาร์กรีฟส์ รับใช้ทีมปีศาจแดงแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้แค่ฤดูกาลเดียว หลัวจากนั้นอีก 3 ปี กองกลางทีมชาติอังกฤษได้แต่วนเวียนเข้าออกโรงพยาบาลรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งรุนแรงขนาดที่ ดร.ริชาร์ด สตีดมัน ศัลยแพทย์ชื่อดังชาวอเมริกา เจ้าของฉายาหมอเทวดา ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของ ฮาร์กรีฟส์ คือเคสที่เลวร้ายที่สุดที่เขาเคยพบมา สุดท้าย ฮาร์กรีฟส์ ก็หมดสัญญากับทีมปีศาจแดง อำลาทีมไปแบบไม่มีผลงานอะไรให้จดจำ แม้ว่าหลังจากนั้นจะได้เซ็นสัญญากับ แมนฯซิตี้ ในปี 2011 แต่ ฮาร์กรีฟส์ ก็ได้ลงเล่นให้ทีมเรือใบสีฟ้าแค่ 4 เกม ก่อนจะต้องยอมรับสภาพ อำลาอาชีพนักฟุตบอลไปในที่สุด

Photo via Eurosport

7.เลดลีย์ คิง

อีกหนึ่งนักเตะทีมชาติอังกฤษที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแข้งฝีเท้าดี แต่อาชีพนักฟุตบอลกับไม่รุ่งโรจน์อย่างที่ควรจะเป็นเพราะโชคไม่ดีเจออาการบาดเจ็บรบกวนตลอด เลดลีย์ คิง ถือเป็นนักเตะ “วัน แมน คลับ” เพราะเล่นให้กับ สเปอร์ ทีมเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง แม้ว่า คิง จะลงเล่นช่วยทีมไก่เดือยทองได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยสักเท่าไหร่ในช่วงท้ายของการค้าแข้งที่อาการบาดเจ็บเริ่มรุมเร้าหนัก แต่ทุกคนในทีมสเปอร์ ทั้งฝั่งผู้บริหารและแฟนบอล ล้วนแล้วแต่ก็หวังให้กัปตันคนนี้อยู่เล่นกับทีมต่อไปเรื่อยๆ แฮร์รี เรดแนปป์ ที่เป็นผู้จัดการทีมในเวลานั่น พูดถึง คิง เอาไว้ว่า แม้ว่าใน 1 ซีซั่น คิง จะลงช่วยทีมได้แค่ 20 เกม แต่แค่นั่นก็เพียงพอที่ คิง จะใช้ความสามารถของเขาช่วยให้ทีมประสบกับชัยชนะ คิง ตัดใจแขวนสตั๊ดในวัย 31 ปี

Photo via ITV

8.ไรอัน เมสัน

เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โชคร้ายที่โดนอาการบาดเจ็บหนักในสนามพรากไปจากอาชีพนักฟุตบอล ไรอัน เมสัน กองกลางเด็กปั้นของ สเปอร์ กำลังทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัดในเวลานั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ และเป็น 1 ในตัวเลือกใหม่ของทีมชาติอังกฤษ แต่จากการเข้าปะทะหนักแค่ครั้งเดียวในเกมที่ ฮัลล์ เจอกับ เชลซี จังหวะที่ เมสัน กระโดดขึ้นแย่งบอลกับ แกรี่ เคฮิลล์ ส่งผลให้ เมสัน บาดเจ็บรุนแรงที่ศรีษะถึงขั้นกระโหลกร้าว เมสัน ต้องรักษาตัวมากกว่า 1 ปี เขาเกือบกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ยังดีที่หายกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อีก เพราะเสี่ยงที่จะได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงซ้ำแผลเดิม ทางเลือกเดียวคือต้องแขวนสตั๊ด

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/

🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends