photo teamtalk.com

รูเบน ดิอาส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติโปรตุเกส ถือเป็นตัวแทนที่เหมาะสมที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรลุ้น (แชมป์)พรีเมียร์ลีก  หลังจาก แว็งซ็องต์ กอมปานี อดีตกองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยียม อำลาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปเมื่อปี 2019

ในฤดูกาลที่ กอมปานี ย้ายออกจากทีม นั้น แมนฯ ซิตี้ ต้องเสียแชมป์ลีกให้กับ ลิเวอร์พูล โดยมีแต้มตามหลังถึง 18 คะแนน ซึ่งทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชาวสเปน ต้องรีบมองหาผู้นำบัญชาการแนวรับคนใหม่แบบเร่งด่วน

สุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ก็ยอมทุ่มเงินถึง 65 ล้านปอนด์ คว้าตัว ดิอาส มาจาก เบนฟิก้า สโมสรดังในลีกโปรตุเกส ในซัมเมอร์ปี 2020 โดยแข้งเลือด “ฝอยทอง” เข้ามาอุดรอยรั่วของ กอมปานี ได้เป็นอย่างดี และกลายเป็นผู้หัวในสำคัญของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ทันที รวมถึงพาทีมทวงแชมป์ พรีเมียร์ลีก กลับคืนมาได้สำเร็จ

ความเป็นมาของ และประสิทธิภาพของ รูเบน ดิอาส

ดิอาส เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 1997 และเริ่มเล่นฟุตบอลกับ เอสเตรล่า ดา อมาโดล่า ในปี 2006 จากนั้น ย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า ในปี 2008 ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองพอสมควรก่อนจะได้เลื่อนขึ้นมาเล่นกับทีมชุด บี ของสโมสรในปี 2015

ผลงานในสนามของ ดิอาส สร้างความประทับใจได้ให้กับสตาฟฟ์โค้ชของ เบนฟิก้า ชุดบี เป็นอย่างมาก โดยในปี 2017 เขาก็ถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ และสามารถยึดตัวหลักได้ทันที รวมทั้งยังมีชื่อติดทีมชาติโปรตุเกสชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก ปี 2018 มาแล้วด้วย

ตลอด 3 ฤดูกาลในทีมชุดใหญ่กับ เบนฟิก้า นั้น ดิอาซ ลงสนามไปรวมทุกรายการมากถึง 137 เกม ซัดไป 12 ประตู รวมถึงยังพาพลพรรค “เหยี่ยวลิสบอน” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนฝอยทอง และแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศได้อย่างละ 1 สมัยอีกด้วย

กวาร์ดิโอล่า มองหานักเตะในตำแหน่งกองหลังตัวกลางฝั่งขวามานานแล้วหลังจาก กอมปานี ย้ายออกไป และมันเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้แผงเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ เกิดช่องว่างให้คู่แข่งทำประตูในแทบทุกเกมที่ลงสนามในปีดังกล่าว

ขณะเดียวกัน การเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก กอมปานี ที่เป็นผู้เล่นระดับตำนานของ แมนฯ ซิตี้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ดิอาส ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความเป็นผู้นำ ความนิ่ง และการอ่านเกมที่เด็ดขาด

photo teamtalk.com

มุมมองต่อกองหลังชาวโปรตุเกส

นอกจากจะกลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ มาตลอด 3 ฤดูกาลแล้ว ดิอาส ยังเป็นผู้ในแนวรับของทีมชาติโปรตุเกสอย่างเต็มตัวอีกด้วย โดยลงรับชาติไปแล้วทั้งสิ้น 48 เกม พร้อมกับซัดไป 2 ประตูด้วยกัน  

โจเซ่ ฟอนเต้ กองหลังเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกสของ ดิอาส กล่าวว่า “รูเบน เป็นหนึ่งในกองหลังตัวกลางที่ผมชื่นชอบมากๆ เขาอายุเพียง 26 ปี แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เขามีความมุ่งมั่นในการทำงานอยู่เสมอ”

“เขาต้องการเรียนรู้ และต้องการที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เขามักจะเฝ้าดูกองหลังที่ยอดเยี่ยมหลายๆคนในสนาม เขาสนใจที่จะรู้รายละเอียดในเกมฟุตบอล เขาเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาได้ตัวผู้เล่นระดับท็อปไปร่วมทีม และ ดิอาส ก็ทำให้พวกเขาดีขึ้นแทบจะทันที”

ตลอด 3 ปี ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ดิอาส ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ตัวเองอีกแล้ว โดยอดีตเด็กปั้น เบนฟิก้า พาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน และแชมป์ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ซึ่งถือเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่สมัยแรกของสโมสรอีกด้วย 

ในเวลานี้ ดิอาส ยังไม่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเลยด้วยซ้ำ และภายใต้การร่วมงานกับยอดเทรนเนอร์มากฝีมืออย่าง กวาร์ดิโอล่า นั้น มันทำให้เขาสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล และกลายเป็นกำลังสำคัญในการพา แมนฯ ซิตี้ เดินหน้ากวาดความสำเร็จต่อไปอีกในอนาคต ซึ่งเรียกได้ว่า ค่าตัวจำนวน 65 ล้านปอนด์ ที่จ่ายไปนั้น คุ้มค่าเป็นอย่างมาก 

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends