ในวัย 31 ปี สารัช อยู่เย็น กอกลางจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยลีก
photo bangkokpost.com

ในวัย 31 ปี สารัช อยู่เย็น กอกลางจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยลีก กำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอล และเจ้าตัวยังถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่ทำให้พลพรรค “เดอะ แรบบิท” มีลุ้นประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2023-2024

คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า สารัช ถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ระดับแนวหน้าของวงการฟุตบอลไทยมานานกว่าทศวรรษแล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ “เจ้าตังค์” ต้องผ่านความยากลำบาก และบททดสอบมากมายทั้งใน และนอกสนาม

เส้นทางสู่นักฟุตบอลของ สารัช อยู่เย็น

  สารัช เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม ปี 1992 ที่จังหวัดสมุทรปราการ และเริ่มเข้าเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลเจริญพงษ์ สมุทรปราการ ก่อนที่จะย้ายเข้าไปเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการในระดับชั้นประถมศึกษา

จากนั้น ได้เข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา และศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ก่อนจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 กองกลางทีมชาติไทย เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 7 ปี โดยในตนแรกเจ้าตัวเล่นเพื่อความสนุกสนานเพื่อน ๆ และได้ตามไปดูพ่อเล่นฟุตบอลอยู่เสมอ จนกระทั่งเริ่มลงสนามฝึกซ้อมอย่างจริงจังตอนอายุประมาณ 10 ปี

เส้นทางฟุตบอลอาชีพนักฟุตบอลของ สารัช เริ่มขึ้นขณะที่เรียนชั้น ม.6 โดยช่วงใกล้ที่จะเรียนจบ นั้น เจ้าตัวได้มีโอกาสเข้ามาเป็นนักเตะในอคาเดมี่ของสโมนรดังอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด และเงินเดือนที่ได้รับครั้งแรกราว 15,000 บาท

ในปี 2009 มันเป็นช่วงสำคัญของ สารัช หลังจากถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติไทย U19 และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดที่คว้าแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม ได้สำเร็จ ก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก สารัช ยังไม่สามารถสอดแทรกเข้ามาเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งทำให้โดนปล่อยไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ ทีมพันธมิตรอย่าง ภูเก็ต เอฟซี ทีมในศึกดิวิชั่น 2 ในช่วงฤดูกาล 2010-2011 ต่อด้วย นครราชสีมา ในปี 2013

ในซีซันต่อมา สารัช กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงในทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมมาตลอด 7 ปี โดยลงสนามให้กับพลพรรค “กิเลนผยอง” ไปเกือบ 200 เกม พร้อมกับคว้าแชมป์ได้มากมาย ประกอบด้วย แชมป์ไทยลีก 2 สมัย , แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ 2 สมัย , แชมป์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 1 สมัย และ แชมป์แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ อีก 1 สมัย

photo bangkokpost.com

ย้ายสู่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และกำลังสำคัญของทีมชาติ

หลังจากใช้เวลาอย่างยาวนานกว่า 11 ปี ในสีเสื้อ เมืองทอง ยูไนเต็ด สารัช ก็ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตด้วยการย้ายออกไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อ-ขาย ฤดูกาล 2020 พร้อมกับก้าวเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้อย่างรวดเร็ว

มิดฟิลด์ทีมชาติไทย แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่โชกโชน และคุณภาพฝีเท้าที่ไม่เคยตกหล่น แม้จะได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนหน้านี้ โดยเจ้าตัวเป็นขุนพลหลักในแดนกลางที่ทำให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก มาครองได้เป็นครั้งแรกทันที และมีสถิติลงเล่นไป 24 เกม ทำไปได้ 4 แอสซิสต์

ความยอดเยี่ยมของ สารัช ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021 และตอนนี้ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ไทยลีก ด้วยการรั้งอันดับ 5 ในตารางคะแนน

 สำหรับการแข่งขันในระดับทีมชาติ สารัช เคยทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมชาติไทย U23 คว้าแชมป์ซีเกมส์ ที่สิงคโปร์ ปี 2015 และ ยังเป็นกำลังสำคัญพาทีม “ช้างศึก” ชุดใหญ่ คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2014 และ 2016 รวมถึง ผ่านเข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี อีกด้วย

สารัช ยังคงเป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยคุณภาพที่สามารถสร้างผลกระทบให้ทั้งทีมชาติ และสโมสร ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใจหาก ดาวเตะชาวไทยวัย 31 ปี รายนี้ จะกลายเป็นคีย์แมนที่พา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในซีซัน 2023-2024 ได้อีกครั้ง

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends