Photo via SNL24

อย่างที่เราได้เห็นกันแล้วว่า เชลซี หลังจากได้เจ้าของทีมคนใหม่อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ทีมก็จัดการถลุงเงินแบบไม่มียั้ง ทุ่มซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพรวมทั้ง 2 ตลาด ทั้งก่อนเปิดฤดูกาลและเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มากกว่า 10 คน คิดเป็นจำนวนเงินที่จ่ายออกไปเป็นค่าตัวของบรรดาผู้เล่นใหม่รวมๆ แล้วมากกว่า 500 ล้านปอนด์!!

แน่นอนว่าเมื่อมีคนใหม่เข้า คนเก่าก็ต้องออกไป ซึ่งฤดูกาลนี้ เชลซี จัดการปล่อยผู้เล่นไปอยู่กับสโมสรอื่นด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งมีทั้งที่เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ถูกปล่อยออกไปเพื่อสั่งสมประสบการณ์ แต่กลับบรรดาแข้งชื่อดังที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวแพงๆ แต่เล่นไปเล่นมากลับทำผลงานไม่เข้าตา ทำให้ทีมจำใจปล่อยไปอยู่กับทีมอื่น เพราะฝืนเก็บเอาไว้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่เพราะไม่มีทีมไหนสนใจจะซื้อขาด ทางเดียวที่ทำได้คือต้องยอมปล่อยออกไปด้วยสัญญายืมตัว อาจจะช่วยให้สโมสรลดภาระเรื่องค่าเหนื่อยได้บ้าง

วันนี้เราจึงอยากวิเคราะห์ 4 นักเตะปล่อยยืมของ เชลซี ดูว่าในฤดูกาลหน้า ทั้ง 4 คนจะยังมีโอกาสกลับมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้อีกมั้ย?

Photo via L’Équipe

โรเมลู ลูกากู

ตอนที่ เชลซี ตัดสินใจดึง โรเมลู ลูกากู กลับมาร่วมทีมเป็นหนที่ 2 เมื่อฤดูกาล 2021-22 หลายคนเชื่อว่านี่คือการซื้อที่น่าจะตอบโจทย์สิ่งที่ทีมสิงห์บลูต้องการ เพราะหลังจากที่ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนสุดท้าย 2016-17 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ ดิเอโก้ คอสต้า เป็นศูนย์หน้าทำหน้าที่ผลิตสกอร์ให้กับทีม ตั้งแต่นั้น เชลซี ก็เจอปัญหาเรื่องศูนย์หน้ามาตลอด ดึงใครเข้ามาก็ไม่มีใครทำผลงาน่าประทับใจสักคน ทำให้ ลูกากู ที่ก่อนจะย้ายมา เชลซี ด้วยค่าตัวเฉียด 100 ล้านปอนด์ ฟอร์มดีสุดๆ กับ อินเตอร์ มิลาน ยิงไปถึง 30 ประตูจาก 44 เกม

แต่ ลูกากู กลับกลายเป็นเหมือนฝันร้ายของแฟนบอลเชลซี เพราะไม่ใช่แค่ผลงานในสนามไม่ดีเหมือนกับที่คาดหวัง ยิงแค่ 8 ประตูจาก 26 เกมที่ลงสนามในลีก แถมนักเตะยังออกมาบ่นในทำนองที่ว่าอยู่ เชลซี ไม่มีความสุขเหมือนตอนอยู่ อินเตอร์ มิลาน ซึ่ง เชลซี ก็โชว์ความใจเด็ด ใช้ไม้แข้ง ไม่ใช้งาน ลูกากู และส่งกลับไปให้ อินเตอร์ ยืนใช้งาน แบบที่เรียกได้ เอาเงินร่วม 100 ล้านปอนด์ ที่ซื้อ ลูกากู มาร่วมทีมไปละลายแม่น้ำ หายวับไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมา

ซึ่งดูเหมือนว่า อินเตอร์ มิลาน ก็ไม่คิดจะซื้อขาด ลูกากู ไว้ใช้งานต่อในฤดูกาล เพราะผลงานน่าผิดหวัง ยิงไปแค่ 3 ประตูจาก 18 เกมในลีก ทำให้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าฤดูกาลหน้า ลูกากู จะได้เล่นให้กับทีมไหน ยังมีใจอยากเล่นให้ เชลซี หรือเปล่า? และก็คงต้องรอผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมสิงห์บลูที่จะเข้ามาคุมทีมในฤดูกาลหน้าจะสนใจใช้งาน ลูกากู ด้วยหรือเปล่า?

Photo via Marca

ติมูเอ้ บากาโยโก้

แฟนบอลเชลซีบางคนอาจจะลืมชื่อของ ติมูเอ้ บากาโยโก้ ไปแล้ว หลังจากย้ายจาก โมนาโก มาอยู่กับทีมในฤดูกาล 2017-18 ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ แต่มิดฟิลด์เชิงรับชาวฝรั่งเศสอยู่เล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แค่ฤดูกาลเดียว เพราะเค้นฟอร์มเก่งสมัยเล่นในลีกฝรั่งเศสออกมาไม่ได้ ทำให้ เชลซี ไม่อยากจะฝืนใช้งานต่อ ตัดสินใจปล่อยไปให้ เอซี มิลาน ยืมตัวในฤดูกาลถัดมา และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บากาโยโก้ ก็ไม่ได้กลับมาเล่นให้ เชลซี อีกเลย แม้จะยังมีสัญญาอยูกับ

โดยหลังจากไปเล่นกับ เอซี มิลาน ในฤดูกาล 2018-19 ปีถัดมาก็กลับไปเล่นให้อดีตต้นสังกัดอย่าง โมนาโก ต่อด้วยการไปเล่นให้ นาโปลี และล่าสุดก็หวนกับไปเล่นให้ เอซี มิลาน อีกครั้ง โดยครั้งนี้เซ็นสัญญา 2 ปี แต่ก็ยังเป็นสัญญายืมตัวเหมือนเดิม ซึ่งในฤดูกาลนี้ บากาโยโก้ แทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมแชมป์ลีกอิตาลี ลงเล่นให้ทีมปีศาจแดง-ดำไปแค่ 3 เกมเท่านั้น ทำให้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว เอซี มิลาน น่าจะไม่มีแผนซื้อขาด บากาโยโก้ แน่นอน

บากาโยโก้ ในวัย 28 ปี ยังคงเหลือสัญญากับ เชลซี อีก 1 ปี แต่ที่ผ่านมาก็มีข่าวมาตลอดว่า ทีมสิงห์บลู อยากจะยกเลิกสัญญากับนักเตะ แต่แน่นอนว่าในมุมของ บากาโยโก้ ที่รับค่าเหนื่อยกับ เชลซี มากกว่าสัปดาห์ละ 1 แสนปอนด์ คงไม่ยอมทำตามที่ เชลซี ต้องการแน่นอน แต่ฟันธงได้เลยว่า เชลซี คงไม่คิดดึง บากาโยโก้ กลับมาเล่นให้ทีมอีกแล้ว ก็เหลือแค่ว่าจะหาทางยกเลิกสัญญากับนักเตะได้มั้ย ถ้าทำไม่สำเร็จก็คงต้องจำใจยอมปล่อยให้ไปเล่นกับทีมอื่นแบบยืมตัวเหมือนที่ผ่านมาจนหมดสัญญา

Photo via BVM Sports

มาลอง ซาร์

เชลซี คว้าตัว มาลอง ซาร์ จาก นีซ ในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งตอนนั้น ซาร์ ได้รับการจับตามองว่าเป็น 1 ในกองหลังอนาคตไกล มาหลายทีมอยากได้ตัว แต่เป็น เชลซี ได้ตัวมาร่วมทีม ก่อนจะปล่อยไปให้ ปอร์โต้ ทีมดังของลีกโปรตุเกสยืมตัวไปใช้งาน ก่อนที่ในฤดูกาล 2021-22 เชลซี ที่ในเวลานั้นมี โธมัส ทูเคิ่ล เป็นผู้จัดการทีม ดึง ซาร์ กลับมาใช้งาน ได้โอกาสลงเล่นไปถึง 21 เกมจากทุกรายการ

แต่พอมาถึงฤดูกาลล่าสุด แม้ เชลซี จะเสียผู้เล่นกองหลังไปถึง 2 คน ทั้ง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น แต่ทีมก็ทุ่มเงินมหาศาลคว้า คาลิดู คูลิบาลี่ และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า มาเป็นตัวแทน ทำให้ มาลอง ซาร์ กลายเป็นส่วนเกิน ก่อนเลือกปล่อยกลับไปเล่นในฝรั่งเศสกับ โมนาโก ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งการกลับไปเล่นในบ้านเกิดหนนี้ของ ซาร์ ไม่ได้สดใสสวยงามเหมือนครั้งก่อน เพราะการย้ายไปเล่นกับ โมนาโก ซาร์ ต้องยอบรับบทบาทตัวสำรอง ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีกแค่ 8 เกม จาก 13 เกมที่ลงสนาม

เชื่อว่าอนาคตของ ซาร์ ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ น่าจะดับสนิทไปแล้ว คงยากที่จะกลับมาแย่งตำแหน่งในทีมที่ในเวลานี้เต็มไปด้วยพวกกองหลังค่าตัวแพง คงได้แต่ตามดูต่อไปว่าฤดูกาลหน้า ซาร์ จะได้ย้ายไปเล่นกับทีมไหน และไปแบบยืมตัวหรือมีทีมที่พร้อมซื้อขาด

Photo via Transfermarkt

คัลลัม ฮัดสัน โอดอย

คัลลัม ฮัดสัน โอดอย เคยถูกมองว่ามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวความหวังให้กับ เชลซี หลังจากที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 แต่กลายเป็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ใช่แค่ฝีเท้าจะพัฒนาขึ้นแต่เหมือนจะถอยหลังลงไปซะด้วยซ้ำ ซึ่งอย่างที่แฟนบอลได้เห็นว่าการแข่งขันแย่งตำแหน่งในแนวรุกของ เชลซี ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่เข้มข้นสุดๆ และนั่นทำให้ โอดอย ที่เมื่อได้รับโอกาสแต่กลับงัดฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาได้ เริ่มห่างหายจากการลงสนาม โดยเฉพาะในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล จนทำให้ในฤดูกาลนี้ เชลซี ตัดสินใจปล่อย โอดอย ไปอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ในเยอรมัน เพราะหวังว่าจะได้รับโอกาสลงสนามมากกว่าที่ เชลซี

ซึ่งช่วงแรกกับการเล่นให้ เลเวอร์คูเซ่น โอดอย ได้โอกาสลงสนามต่อเนื่อง ทั้งในฐานะตัวจริงและตัวสำรอง แต่หลังจากผ่านการลงเล่นเกมลีกไปร่วม 10 เกม โอดอย ทำผลงานให้ทีมเพียงแค่ 1 แอสซิสต์ ในเกมนัดเปิดฤดูกาล ทำให้หลังจากนั้น โอดอย แทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมของ เลเวอร์คูเซ่น โดย 7 เกมหลังสุดในบุนเดสลีก้า โอดอย ได้ลงเล่นให้ทีมห้างขายยาไปแค่ 7 นาทีเท่านั้น

ดูจากผลงานและโอกาสลงสนาม ฟันธงได้เคยว่า เลเวอร์คูเซ่น ไม่สนดึง โอดอย เอาไว้ใช้งานต่อแน่นอน พร้อมปล่อยกลับไปอยู่ เชลซี เหมือนเดิม ซึ่งด้วยผลงานที่น่าผิดหวังกับการไปเล่นในลีกเยอรมัน อนาคตของ โอดอย กับ เชลซี ก็คงจะไม่สดใสสักเท่าไหร่แน่นอน

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023

🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends