Photo via Brighton & Hove Albion

เรียกว่าแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวสำหรับ คาโอรุ มิโตมะ ปีกทีมชาติญี่ปุ่นของสโมสรไบรท์ตัน ที่ได้โอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เป็นปีแรก และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 9 ประตู กับ  6 แอสซิสต์ จาก 27 เกมที่ลงสนาม จนตอนนี้เป็นที่หมายตาของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ

ซึ่งที่ผ่านมามีแข้งเลือดซามูไรแวะเวียนเข้ามาค้าแข้งและสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกแบบไม่ขาดสาย เรามาย้อนไปดูกันดีกว่านับตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีนักเตะญี่ปุ่นคนไหนบ้างที่เคยย้ายมาฝากฝีเท้าเอาไว้บ้าง

Photo via Laitimes

1.จุนอิชิ อินาโมโตะ

(อาร์เซนอล, ฟูแล่ม, เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน, คาร์ดิฟฟ์ 2002-06)

จุนอิชิ อินาโมโตะ ถูกบันทึกว่าเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่ได้มาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก รวมทั้งเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกของไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล อินาโมโตะ กองกลางที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงของวงการฟุตบอล เจลีก โดยหลังจากคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ เจลีก ในปี 2000 ด้วยวัยแค่ 21 ปี ในปีถัดมา อาร์เซนอล ก็จัดการคว้าตัว อินาโมโตะ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวราว 3.5 ล้านปอนด์ ซึ่งช่วงนั่นเป็นเวลาที่นักเตะญี่ปุ่นเริ่มเป็นที่สนใจของตลาดฟุตบอลยุโรป เพราะญี่ปุ่นกำลังจะรับเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2002 ร่วมกับเกาหลีใต้ แต่ อินาโมโตะ แทบไม่มีส่วนร่วมกับทีม เพราะได้ลงเล่นบอลถ้วยไปแค่ 4 เกมทั้งฤดูกาล สุดท้าย อินาโมโตะ ก็ปิดฉากการค้าแข้งกับไอ้ปืนใหญ่แค่ฤดูกาลเดียว หลังจากนั้นกองกางเจ้าของเอกลักษณ์ผมสีทองก็ย้ายไปอยู่กับฟูแล่ม อีกหนึ่งทีมในพรีเมียร์ลีก ที่นี่ อินาโมโตะ เริ่มได้โอกาสลงสนามมากขึ้น อยู่กับ ฟูแล่ม 2 ปี ก็ย้ายไปอยู่ เวสต์ บรอมฯ ช่วงสั้นๆ ก่อนจะโบกมือลาพรีเมียร์ลีกแบบถาวรในปี 2006 

Photo via TEAMtalk

2.ชินจิ คากาวะ

(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2012-14)

ชินจิ คากาวะ ถือเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลเจลีก โดยถือเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลญี่ปุ่นที่ได้เซ็นสัญญานักเตะอาชีพตั้งแต่ยังไม่จบมหาวิทยาลัย แม้ว่าตำแหน่งในสนามของ คากาวะ จะไม่ใช่กองหน้าแบบเต็มตัว เป็นแนวตัวรุกสนับสนุนศูนย์หน้าตัวเป้า แต่ คากาวะ ก็ถูกเรียกว่าเป็นกองกลางจอมถล่มประตู จากผลงานสมัยเล่นในญี่ปุ่นกับทีมเซเรโซ โอซาก้า ที่ คากาวะ เคยทำได้ถึง 27 ประตูในฤดูกาลเดียว หลังจากย้ายมาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ในเยอรมันเมื่อปี 2011 คากาวะ ก็แจ้งเกิดในเวทียุโรปได้ในทันที จนในอีก 2 ปีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่าย 12 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกของทีมปีศาจแดง แม้จะได้อยู่กับ แมนฯยู แค่ 2 ซีซั่น แต่ คากาวะ ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ผีแดงได้ไม่น้อย แถม คากาวะ ยังได้ชื่อว่าเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ยิงแฮทริคได้ในพรีเมียร์ลีก

Photo via Sky Sports

3.เรียว มิยาอิชิ

(อาร์เซนอล, โบลตัน, วีแกน 2011-14)

หลังจากได้มีโอกาสมาทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซนอล ตอนอายุ 18 ช่วงปี 2010 อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ของอาร์เซนอลในเวลานั้น ประทับใจฝีเท้าของ เรียว มิยาอิชิ อย่างมาก จนต้องบอกให้สโมสรจับเด็กหนุ่มจากญี่ปุ่นรายนี้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะของทีม แต่เพราะอายุยังน้อยและไม่มีประสบการณ์ในฟุตบอลระดับอาชีพเลย (มิยาอิชิ ไม่เคยเล่นในเจลีกเลยด้วยซ้ำตอนมาทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอล) ทำให้ทีมปืนใหญ่เลือกปล่อย มิยาอิชิ ไปหาประสบการณ์กับเฟเยนูร์ด ทีมดังของลีกฮอลแลนด์ ซึ่งด้วยความที่เป็นดาวรุ่งที่ทีมใหญ่อย่างอาร์เซนอลคว้าตัวมาร่วมทีม ทำให้เกิดความคาดหวังในฝีเท้าของ มิยาอิชิ ค่อนข้างสูง สื่อในญี่ปุ่นถึงขั้นเอา มิยาอิชิ ไปเทียบกับ โรนัลดินโญ่ หรือ ลีโอเนล เมสซี่ อาร์เซนอล เองก็ดูเหมือนจะคาดหวังกับฝีเท้าของเด็กคนนี้ไม่น้อย ตลอด 5 ปีที่ มิยาอิชิ อยู่กับ อาร์เซนอล เวนเกอร์ พยายามส่งตัวให้ไปหาประสบการณ์กับหลายๆ ทีม นอกจาก เฟเยนูร์ด ก็มี โบลตัน, วีแกน และ ทเวนเต้ แต่สุดท้ายก็เข็นไม่ขึ้น ได้ลงเล่นให้ปืนใหญ่ไปแค่ 7 เกมเท่านั้น

4.ฮิเดะโตชิ นากาตะ

(โบลตัน 2005-06)

นากาตะ ถือเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกๆ ที่สามารถสร้างชื่อในยุโรป ทำให้โลกได้เห็นว่านักเตะญี่ปุ่นก็มีฝีเท้ายอดเยี่ยมเทียบชั้นความเป็นผู้เล่นระดับโลกได้ไม่แพ้ชาติอื่นๆ ตอนที่ นากาตะ ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ โบลตัน ก็ถือเป็นช่วงปลายของอาชีค้าแข้งแล้ว หลังจากสร้างชื่อในอิตาลีอยู่หลายปี ช่วงที่พีคที่สุดคงเป็นตอนที่เล่นให้กับ โรม่า และ ปาร์ม่า

Photo via ESPN

5.ชินจิ โอกาซากิ

(เลสเตอร์ ซิตี้ 2015-18)

อีกหนึ่งนักเตะญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จกับการมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2015-16 ร่วมกับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ โอกาซากิ ทำผลงานในการถล่มประตูกับต้นสังกัดในเจลีก อย่าง ชิมิซึ เอส-พัลส์ ได้ดีแบบต่อเนื่อง จนผลงานไปเข้าตา สตุ๊ตการ์ต ทีมในบุนเดสลีก้า แต่ดูเหมือน โอกาซากิ จะปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมม้าขาวไม่ได้ ทำให้ฟอร์มไม่ค่อยเปรี้ยง สุดท้ายต้องย้ายไปอยู่กับ ไมนซ์ 05 อีกหนึ่งทีมในเยอรมัน ซึ่งที่นี่ โอกาซากิ กลับมาโชว์ฟอร์มดีอีกครั้ง จน เลสเตอร์ ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2015 ค่าตัว 7 ล้านปอนด์

6.คายูซูกิ โทดะ

(ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2002-03)

หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว นักเตะญี่ปุ่นรายนี้เคยมาค้าแข้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เพราะ คายูซูกิ โทดะ กองกลางที่เล่นกองหลังได้ ย้ายมาอยู่กับทีมไก่เดือยทองช่วงปี 2002-03 ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก แค่ 4 เกมเท่านั่น ไม่แปลกที่หลายคนจะจำ โทดะ ไม่ได้ ซึ่งหลังจากย้ายออกจาก สเปอร์ โทดะ ก็ตระเวนค้าแข้งกับสโมสรต่างๆ ร่วม 10 ทีม ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2013

Photo via Eurosport

7.มายะ โยชิดะ

(เซาแธมป์ตัน 2012-20)

ปัญหาหลักของนักเตะเอเชียที่ทำให้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับการเล่นในยุโรป ก็คือเรื่องของรูปร่าง แต่ปัญหาดังกล่าวไม่เกิดกับ มายะ โยชิดะ เซ็นเตอร์แบ็คชาวญี่ปุ่นที่มีส่วนสูงถึง 189 ซม. โยชิดะ เริ่มค้าแข้งกับนาโกย่า แกรมปัส ในเจลีก ก่อนจะย้ายมาเล่นในยุโรปกับทีมวีวีวี เวนโล่ และถูก เซาแธมป์ตัน ซื้อต่อมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในปี 2012  และยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักของทีมนักบุญตลอด  8 ปี ที่อยู่กับทีม ปัจจุบัน โยชิดะ ในวัย 34 ปี ยังคงเป็นตัวหลักให้กับ ชาลเก้ 04 ทีมในบุนเดสลีก้า

Photo via Goal

8.โยชิโนริ มุโตะ

(นิวคาสเซิล 2018-21)

อีกหนึ่งศูนย์หน้าชาวญี่ปุ่นที่สร้างชื่อในลีกบ้านเกิดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เคยได้รางวัลนักเตะหน้าใหม่ยอดเยี่ยมตั้งแต่สมัยเล่นฟุตบอลในลีกระดับมหาลัย พอขึ้นมาเล่นในลีกอาชีพกับสโมสร เอฟซี โตเกียว ก็ทำสถิติเป็นแข้งหน้าใหม่ที่ยิงประตูได้สูงที่สุดตั้งแต่ปีแรกที่ลงเล่นใน เจลีก เล่นในญี่ปุ่นแค่ 2 ปี ก็ถูด ไมนซ์ 05 ทีมในบุนเดสลีก้า เยอรมัน ดึงไปร่วมทีม ก่อนที่จะเป็น นิวคาสเซิล คว้าตัวมาเล่นในอังกฤษเมื่อฤดูกาล 2018-19 ด้วยค่าตัวราว 10 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนการเล่นในพรีเมียร์ลีกอาจจะยังไม่ใช้คำตอลของ มุโตะ เพราะแทบไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนาม รวมทั้งเจอปัญหาเรื่องการปรับตัวกับการเล่นบอลหนักสไตล์อังกฤษ

Photo via Goal

9.ทาคุมิ มินามิโนะ

(ลิเวอร์พูล 2020-22)

สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย ตอนที่ย้ายจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนธันวาคม 2019 ด้วยค่าตัว 7.25 ล้านปอนด์ แต่ก็ได้รับโอกาสลงสนามไม่มากนัก ก่อนจะถูกปล่อยไปให้ เซาแธมป์ตัน ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาลต่อมา สุดท้ายก็ต้องแยกทางกับ ลิเวอร์พูล โดยฤดูกาลนี้ มินามิโนะ ย้ายถาวรไปอยู่กับ โมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส

Photo via Arsenal

10.ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ

(อาร์เซนอล 2021-ปัจจุบัน)

กองหลังดาวโรจน์ทีมชาติญี่ปุ่นที่ย้ายจาก โบโลญญ่า ในอิตาลี มาอยู่กับ อาร์เซนอล ในช่วงวันสุดท้ายของตลาดนักเตะก่อนเปิดฤดูกาล 2021-22 โดยฤดูกาลแรกของ โทมิยาสุ ในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ทำผลงานน่าประทับใจ เป็นตัวหลักในตำแหน่งแบ็คขวา แต่พอมาในฤดูกาลล่าสุด ดาวเตะวัย 24 ปี ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นซีซั่นใหม่ ทำให้เสียตำแหน่งตัวจริงในทีมปืนใหญ่ให้กับ เบน ไวท์ แม้จะหายเจ็บกลับมาแต่ก็ยังแย่งตำแหน่งคืนไม่สำเร็จ

11.คาโอรุ มิโตมะ

(ไบรท์ตัน 2021-ปัจจุบัน)

ไบรท์ตัน คว้าตัว มิโตมะ มาจากสโมสรคาวาซากิ ฟอนตาเร่ ทีมในเจลีก ในปี 2021 ก่อนจะปล่อยไปเก็บประสบการณ์การเล่นฟุตบอลในยุโรปกับสโมสรยูเนี่ยน แซงต์-กิลลุส ในลีกเบลเยียม มาปีนี้ ไบรท์ตัน ดึงตัวกลับมาใช้งาน และเมื่อได้โอกาสลงสนามก็เริ่มทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ถูกวางให้เป็นแค่ตัวสำรอง แต่ตอนนี้ มิโตมะ กลายเป็นทีเด็ดในเกมรุกที่ ไบรท์ตัน ขาดไม่ได้ไปแล้ว

🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/

🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends