Photo via ESPN

แบร์นาโด้ ซิลวา มิดฟิลด์คนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่สร้างความสำเร็จกับทีมมาแล้วถึง 6 ปี คว้าแชมป์มากมายร่วมกับสโมสร โดยเฉพาะแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ทำได้ถึง 5 สมัย เราลองอยู่ไปดูกันดีกว่าว่ากว่าที่ แบร์นาโด้ จะประสบความสำเร็จกับทีมเรือใบสีฟ้าได้อย่างทุกวันนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

📌แอดไลน์เพื่อรับข้อมูลข่าวกีฬาใหม่ล่าสุด👉 https://sytgn.com/LINES

1.เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรเบนฟิก้า แต่ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่แค่ 31 นาที

แม้จะอยู่กับเบนฟิก้าร่วม 10 ปี แต่ แบร์นาโด้ ได้ลงเล่นในลีกให้กับทีมชุดใหญ่ของเบนฟิก้าแค่ 1 เกม ในฐานะตัวสำรองเกมที่พบกับ เอฟซี ปอร์โต้ ในฤดูกาล 2013-14 โดยลงสนามไปแค่ 8 นาทีก่อนจบเกม และยังได้โอกาสลงเล่นอีก 2 เกมในบอลถ้วย ซึ่งรวมนาทีที่ แบร์นาโด้ ได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า รวมแล้วทั้งหมดคือ 31 นาที

พอปีถัดมา แบร์นาโด้ ย้ายไปเล่นกับ โมนาโก ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มดีจน โมนาโก ยอมยืนข้อเสนอถึง 15.75 ล้านยูโร เซ็นสัญญากัน 4 ปี แต่พอจบฤดูกาลแรก โมนาโก เล็งเห็นแล้วว่า นักเตะคนนี้มีแววไปโลดสโมสรเลยจัดการขยายสัญญาไปอีก 1 ปี

จนมาในฤดูกาลล่าสุด 2016-17 เจ้าตัวประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ด้วยการพา โมนาโก ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกเอิง หักหน้ามหาเศรษฐีแห่งเมืองหลวงอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงหลัง แถมผลงานในบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็พาทีมมาไกลถึงในรอบ 4 ทีมสุดท้าย

Photo via Pinterest

2.มีฉายาว่า “เมสซี่น้อย” (little messi)

ฉายานี้ได้ตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวเป็นนักเตะเยาวชนของเบนฟิก้า เพราะเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน บวกกับทักษะเรื่องการเลี้ยงบอลและจินตนาการในการสร้างสรรค์เกมรุกที่โดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย

เฮเลน่า คอสต้า โค้ชคนแรกของ แบร์นาโด ซิลวา ที่ เบนฟิก้า เล่าให้ฟังว่า แบร์นาโด มาฝึกซ้อมกับสโมสรตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ซึ่งตอนนั้นมีการทดสอบฝีเท้าเพื่อคัดเลือกเด็กที่เข้ามาสมัคร โดยหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ของการฝึกซ้อม ทีมโค้ชคิดว่าไม่มีเด็กคนไหนน่าประทับใจพอที่จะได้อยู่กับทีมต่อ แต่แล้วในการทดสอบวันสุดท้าย พวกเขาก็ได้เห็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งเลี้ยงลูกบอลผ่านเด็กคนอื่นๆ ด้วยเท้าซ้าย ซึ่งเล่าทีมสต๊าฟฟ์ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งได้เห็น ซึ่งเด็กคนนั้นก็คือ แบร์นาโด้ ซิลวา

Photo via Eurosport

3.คว้ารางวัลนักเตะที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมแน่งปี ของลีกเซกุนด้า หรือลีก 2 ของประเทศโปรตุเกส

ในฤดูกาล 2013-14 ซิลวา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีม เบนฟิก้า บี จนคว้ารางวัลนักเตะที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมแห่งปี (league’s Breakthrough Player of the Year award) ของลีกเซกุนด้า หรือลีก 2 ของประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกในการเล่นฟุตบอลอาชีพ ลงเล่น 38 เกม ยิงได้ 7 ประตู

แม้จะดูมีอนาคตในทีมชุดใหญ่ แต่หลังจากที่ ซิลวา ได้เลื่อนชั้นไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนอะไรๆ จะไม่ได้สดใสอย่างที่วาดฝันไว้

“ในการซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของเบนฟิก้า พวกเขาจับให้ผมไปซ้อมในตำแหน่งแบ็คซ้าย ซึ่งทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่าผมคงไม่มีอนาคตกับสโมสรแห่งนี้อีกแล้ว” ซิลวา ย้อนให้ฟังถึงความหลังว่าทำไม่เจ้าตัวจึงไม่มีส่วนร่วมที่เบนฟิก้า

Photo via Bernardo Silva Twitter

4.ผลงานเข้าตา เป๊ป แบบเต็มในเกมที่โมนาโกบุกไปแพ้แมนฯซิตี้ 5-3

ในเกมนั้นแม้ว่า โมนาโก ของ ซิลวา จะบุกไปแพ้ที่บ้านของ แมนฯซิตี้ แต่ถ้าใครที่ได้ดูน่าจะยังจำกันได้ว่าเกมนั้นทีมเยือนบุกไปสู้กับเจ้าบ้านได้แบบสูสี โดยโมนาโกเป็นฝ่ายนำก่อน 3-2 โดยซ้ำ แต่มาโดนยิ่ง 3 ลูกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งในเกมดังกล่าวบรรดาผู้เล่นเกมรุกของโมนาโกต่างโชว์ผลงานได้ดีทุกคน โดยเฉพาะ แบร์นาโด ซิลวา ที่ลีลาการทำเกมรุกยอดเยี่ยมกลบรัศมีผู้เล่นเจ้าถิ่นอย่าง ลิรอย ซาเน่ หรือแม้แต่ตัวเก๋าอย่าง ดาบิด ซิลบา

ทำให้ แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เดินเรื่องของซื้อตัวอย่างรวดเร็ว หอบเงินของกลุ่มทุนอาหรับมาให้เป็นค่าตัวของ ซิลวา ถึง 50 ล้านยูโร หรือ 43.5 ล้านปอนด์ แถมมีโอกาสจ่ายเพิ่มอีก 20 ล้านยูโรขึ้นอยู่กับผลงาน

ซึ่ง ซิลวา ก็ได้เปิดใจผ่านเว็บไซต์ทางการของทีมเรือใบสีฟ้าว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ผมภูมิใจที่ได้มาอยู่กับ 1 ในทีมที่ดีที่สุดในโลก สโมสรที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ เมื่อคุณได้รับโอกาสได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากที่คุณจะตอบปฏิเสธ”

💪 อัพเดททุกการเคลื่อนไหว ฟุตบอล ทั้งหมดที่ SYT Thailand

💪 อัพเดททุกการเคลื่อนไหว กีฬา ทั้งหมดที่ SYT Thailand

👉 ติดตามแฟนเพจ Facebook ของเรา Support Your Team – Thailand