ลิโอเนล เมสซี่ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน นักเตะรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอดการลงเล่นซึ่งการันตีฝีมือด้วยถ้วยรางวัลในระดับส่วนตัวและทีมมามากมาย ล่าสุดกับทีมชาติอาร์เจนติน่านอกจากเขาจะพาทีมทะลุเข้าไปคว้าแชมป์โคปา อเมริกาได้สำเร็จในปี 2021 ช่วงสิ้นปี2022ที่ผ่านมาแข้งรายนี้ก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้อย่างสวยงามอีกด้วย นักเตะวัย 34 ปีทำลายสถิติที่น่าทึ่งได้หลายรายการ เขายังเป็นผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ของเกมฟุตบอลที่เคยคว้ารางวัลบัลลงดอร์มากถึง 7 สมัย และในบทความนี้เราจะมานำเสนอข้อเท็จจริงที่น่าสนใจสำหรับเมสซี่เพิ่มเติมซึ่งเรื่องราวต่อไปนี้คุณอาจไม่เคยรับรู้จากที่ไหนมาก่อนเลยก็ได้
เมสซี่ขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโต และชอบดื่มโค้กเป็นชีวิตจิตใจ
เราทุกคนรู้ว่าเมสซี่เกิดที่โรซาริโอ ซึ่งเป็นบ้านเกิดร่วมกับเช เกวารา นักปฏิวัติระดับตำนาน ในช่วงวัยเด็กเขาถูกวินิจฉัยว่าขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโตซึ่งต้องใช้ยาราคาแพงในการรักษา หลายคนเชื่อว่าเป็นทางสโมสรบาร์เซโลนาที่ยินดีจ่ายค่ารักษานี้ให้กับเขาหลังจากที่เขาเซ็นสัญญากับยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลันในปี 2001 อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงกับตรงกันข้ามกับสิ่งที่หลายคนเคยรับรู้เนื่องจากยาของเขาได้รับการดูแลโดยการใช้สิทธิประกันสังคมของประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี่ อายุเพียง 13 ปีเมื่อเขาเข้าร่วมทีมบาร์เซโลน่าและเช่นเดียวกับวัยรุ่นคนอื่นๆ เขามีจุดเด่นเรื่องการชอบดื่มเครื่องดื่มโคล่าเป็นอย่างมาก การชอบดื่มโค้กของเขานั้นทำให้บาร์ซ่าวิตกกังวลถึงกับต้องถอดเครื่องทำโซดาทั้งหมดในแคมป์ลา มาเซียออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้สุขภาพของเขาเสียไปมากกว่านี้
กระดาษเช็ดปากคือจุดเริ่มต้นของหน้าประวัติศาสตร์
เมสซี่เป็นที่รู้จักการความเก่งกาจอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ คาร์เลส เรซาค หนึ่งในทีมงานด้านเทคนิคของบาร์เซโลนารู้สึกทึ่งกับเทคนิคของเด็กอายุ 13 ปีในขณะนั้น เรซาครู้สึกทึ่งกับทักษะที่เขาเห็นแต่เนื่องจากวัยทำให้เมสซี่ยังไม่สามารถเซ็นสัญญากับทีมได้อย่างเป็นทางการในตอนนั้น เรซาคจึงตัดสินใจเขียนสัญญาโดยย่อลงกระดาษเช็ดปากที่อยู่แถวๆนั้นพอดี ปัจจุบันกระดาษเช็ดปากผืนนั้นยังถูกเก็บไว้ในกรอบเพื่อเก็บรักษาไว้นานเท่านานเนื่องจากถือว่าเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวต่างๆในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของทั้งบาร์เซโลนาและโลกใบนี้
การเริ่มต้นที่ไม่ดีนักในเกมทีมชาติ
เมสซี่ลงสนามครั้งแรกให้กับทีมชาติอาร์เจนตินาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2005 ขณะอายุ 18 ปี เมื่อเขาลงมาแทนลิซานโดร โลเปซในนาทีที่ 63 ในเกมกระชับมิตรกับฮังการี มันควรจะเป็นวันที่เรามองย้อนกลับไปว่าเป็นจุดเริ่มต้นของผลงานที่ดีระหว่างเขากับทีมแต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ หลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพียง 43 วินาที เมสซีมีจังหวะที่จะได้เล่นกับบอลก่อนที่เขาจะครองบอลอยู่ไม่กี่วินาทีแต่หลังจากนั้น Vilmos Vanczak กองหน้าทีมชาติฮังการีพยายามเข้ามาแย่งบอลซึ่งก็มีจังหวะที่เมสซี่ใช้แขนฟาดไปที่ใบหน้าของวิลมอสซึ่งจังหวะนั้นผู้ตัดสินถือว่าเป็นการจงใจใช้ศอกทำร้ายก่อนที่จะตัดสินใจแจกใบแดงให้กับเมสซี่
เผยเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเมสซี่ถึงยืนอยู่มุมด้านล่างในการถ่ายรูปทีม
แม้แต่แข้งผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังถ่อมตัว และถึงแม้เขาจะมีทักษะฟุตบอลที่ไม่ธรรมดาแต่ก็ถือว่ามีจุดกำเนิดที่ไม่ต่างจากบรรดานักฟุตบอลทั่วไปมากนัก แข้งชาวอาร์เจนติน่าตัวจิ๋วชอบยืนอยู่ที่มุมซ้ายของรูปภาพที่ถ่ายอยู่เสมอเนื่องจากในช่วงแรกเขาเป็นเพียงน้องใหม่ในทีมบาร์เซโลน่าที่ประกอบไปด้วยเหล่านักเตะระดับโลกล้นทีม ความเคยชินนี้ทำให้เมสซี่มักนำตัวเองไปยืนอยู่ในมุมของภาพอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าใครหลายคนจะไม่ทันได้สังเกตุแต่ก็ทำให้เชื่อเหลือเกินว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้คอยเตือนเราว่าไม่ว่าเมสซีจะมีพรสวรรค์เพียงใด เขาก็ยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ถ่อมตนและคุ้นเคยกับสิ่งที่เคยทำมาอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสู่วงการ
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/
🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends
